เอกอัครราชทูตอาเซียน 9 ประเทศ เข้าเยี่ยมคารวะนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ เพื่อแนะนำตัวเป็นเวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อคณะทูตานุทูตและองค์กรระหว่างประเทศที่ประจำการในประเทศไทย ทั้งหมด 74 ประเทศ แบ่งเป็นเอกอัครราชทูต 50 ประเทศ อุปทูต 17 ประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ 7 ประเทศ
โดยเนื้อหาสุนทรพจน์เกี่ยวกับภารกิจสำคัญของรัฐบาล 3 ประเด็น คือ 1. การสร้างความเชื่อมั่นต่อระบอบการเมืองไทย ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาและหลักแห่งกฏหมาย ยืนยันรัฐบาลจะแก้ปัญหาภายในด้วยวิถีทางประชาธิปไตย บริหารประเทศอย่างดีที่สุด มุ่งสร้างความสมานฉันท์ผ่านมรสุมทางการเมือง 2.การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจจากความผันผวนทางการเงินของโลก และ 3.ประเทศไทยยึดมั่นในพันธกรณีต่างๆ ในกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ และความร่วมมือทวิภาคีกับประเทศต่างๆ
ซึ่งทันทีที่กล่าวสุนทรพจน์เสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีและคณะทูตานุทูตเดินทางจากกระทรวงการต่างประเทศทันที งดการเลี้ยงอาหารกลางวัน โดยนายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนการรักษาความปลอดภัยขณะนี้เจ้าที่ปิดประตูด้านถนนศรีอยุธยาเปิดให้ผู้มาติดต่อเข้า-ออกทางประตูพระราม 6 เพียงประตูเดียว
โดยเนื้อหาสุนทรพจน์เกี่ยวกับภารกิจสำคัญของรัฐบาล 3 ประเด็น คือ 1. การสร้างความเชื่อมั่นต่อระบอบการเมืองไทย ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาและหลักแห่งกฏหมาย ยืนยันรัฐบาลจะแก้ปัญหาภายในด้วยวิถีทางประชาธิปไตย บริหารประเทศอย่างดีที่สุด มุ่งสร้างความสมานฉันท์ผ่านมรสุมทางการเมือง 2.การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจจากความผันผวนทางการเงินของโลก และ 3.ประเทศไทยยึดมั่นในพันธกรณีต่างๆ ในกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ และความร่วมมือทวิภาคีกับประเทศต่างๆ
ซึ่งทันทีที่กล่าวสุนทรพจน์เสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีและคณะทูตานุทูตเดินทางจากกระทรวงการต่างประเทศทันที งดการเลี้ยงอาหารกลางวัน โดยนายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนการรักษาความปลอดภัยขณะนี้เจ้าที่ปิดประตูด้านถนนศรีอยุธยาเปิดให้ผู้มาติดต่อเข้า-ออกทางประตูพระราม 6 เพียงประตูเดียว