สำนักข่าวรอยเตอร์เสนอข่าวเหตุการณ์ ตำรวจใช้แก๊สน้ำตายสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อวันอังคาร(7) ขณะเดียวกันยังได้เสนอรายงานข่าวในลักษณะ "ฉาก" เหตุการณ์การประท้วง เขียนโดย เอด ครอปลีย์ ที่เปรียบเทียบเหตุความรุนแรงนี้กับฉากปิดของสงครามเวียดนาม
ภาพเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ "ฮิวอี้" ซึ่งผลิตที่สหรัฐฯ บินเข้าไปลำเลียงผู้คนซึ่งติดอยู่ในวงล้อมภายในสถานที่แห่งหนึ่งกลางเมืองอันร้อนระอุในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ดูเหมือนฉากปิดของสงครามเวียดนามอันคุ้นตา
ทว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ ณ ปี 2008 หาใช่ที่ไซ่ง่อนในปี 1975 แต่อย่างใด ส่วนคนที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวก็คือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งติดอยู่ในอาคารรัฐสภาในระหว่างที่มีผู้ประท้วงหลายพันคนตะโกนไล่เขาอยู่ที่ด้านนอก
ผู้ประท้วงชายรายหนึ่งถูกระเบิดที่ขา และอีกคนหนึ่งเท้าขาดจากเหตุการณ์ที่ตำรวจปราบจลาจลเคลื่อนกำลังในช่วงเช้า เพื่อเข้าไปเคลียร์เปิดเส้นทางเข้าสู่อาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นอาคารคอนกรีตสมัยใหม่ตั้งอยู่ใจกลางบริเวณเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ส่วนผู้สนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯ อีกหลายพันหลายหมื่นคนก็ออกมาสมทบการชุมนุมเพราะโกรธแค้นการกระทำอันรุนแรงของตำรวจ และในท้ายที่สุดก็ร่วมกันผลักดันตำรวจให้ถอยร่นไปโดยทิ้งไว้เพียงไม้กระบอง โล่ และรถอีก 6 คัน
ภาพเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ "ฮิวอี้" ซึ่งผลิตที่สหรัฐฯ บินเข้าไปลำเลียงผู้คนซึ่งติดอยู่ในวงล้อมภายในสถานที่แห่งหนึ่งกลางเมืองอันร้อนระอุในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ดูเหมือนฉากปิดของสงครามเวียดนามอันคุ้นตา
ทว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ ณ ปี 2008 หาใช่ที่ไซ่ง่อนในปี 1975 แต่อย่างใด ส่วนคนที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวก็คือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งติดอยู่ในอาคารรัฐสภาในระหว่างที่มีผู้ประท้วงหลายพันคนตะโกนไล่เขาอยู่ที่ด้านนอก
ผู้ประท้วงชายรายหนึ่งถูกระเบิดที่ขา และอีกคนหนึ่งเท้าขาดจากเหตุการณ์ที่ตำรวจปราบจลาจลเคลื่อนกำลังในช่วงเช้า เพื่อเข้าไปเคลียร์เปิดเส้นทางเข้าสู่อาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นอาคารคอนกรีตสมัยใหม่ตั้งอยู่ใจกลางบริเวณเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ส่วนผู้สนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯ อีกหลายพันหลายหมื่นคนก็ออกมาสมทบการชุมนุมเพราะโกรธแค้นการกระทำอันรุนแรงของตำรวจ และในท้ายที่สุดก็ร่วมกันผลักดันตำรวจให้ถอยร่นไปโดยทิ้งไว้เพียงไม้กระบอง โล่ และรถอีก 6 คัน