นายทาโร อาโซะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภาว่า เข้าใจสถานการณ์ในขณะนี้ดีว่า ชาวญี่ปุ่นล้วนแต่พะวงปัญหาเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก ดังนั้นจะไม่ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีเพื่อยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวต่อไปว่า จะของบประมาณพิเศษกว่า 56,000 ล้านบาท มาช่วยระบบเศรษฐกิจในประเทศ ให้สามารถรับมือกับราคาสินค้าที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งกำลังมองหาเงินทุนเพิ่มเติม เพื่อนำมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำ อันมีผลมาจากวิกฤตการเงินโลก ที่ทำให้ลูกค้าในตลาดส่งออกในประเทศของญี่ปุ่นหายไป คาดการณ์กันว่านายอาโซะจะประกาศยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว โดยฉวยจังหวะที่คะแนนนิยมยังดีอยู่ เพื่อเป็นแต้มต่อในการเลือกตั้ง และชิงความได้เปรียบเหนือพรรคฝ่ายค้านที่กำลังมาแรง แต่การสำรวจคะแนนนิยมล่าสุด ปรากฏว่าเพียง 1 เดือนหลังรับตำแหน่ง คะแนนนิยมที่มีต่อเขา และคณะรัฐมนตรีกับตกต่ำไปจากเมื่อเพิ่งรับตำแหน่งใหม่ๆ ถึงร้อยละ 7
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวต่อไปว่า จะของบประมาณพิเศษกว่า 56,000 ล้านบาท มาช่วยระบบเศรษฐกิจในประเทศ ให้สามารถรับมือกับราคาสินค้าที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งกำลังมองหาเงินทุนเพิ่มเติม เพื่อนำมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำ อันมีผลมาจากวิกฤตการเงินโลก ที่ทำให้ลูกค้าในตลาดส่งออกในประเทศของญี่ปุ่นหายไป คาดการณ์กันว่านายอาโซะจะประกาศยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว โดยฉวยจังหวะที่คะแนนนิยมยังดีอยู่ เพื่อเป็นแต้มต่อในการเลือกตั้ง และชิงความได้เปรียบเหนือพรรคฝ่ายค้านที่กำลังมาแรง แต่การสำรวจคะแนนนิยมล่าสุด ปรากฏว่าเพียง 1 เดือนหลังรับตำแหน่ง คะแนนนิยมที่มีต่อเขา และคณะรัฐมนตรีกับตกต่ำไปจากเมื่อเพิ่งรับตำแหน่งใหม่ๆ ถึงร้อยละ 7
