นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (6 ต.ค.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีฤดูกาลผลิต 2551/2552 ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อหารือและกำหนดความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว
สำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี จะเริ่มเปิดรับจำนำ ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งจากมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และมติคณะรัฐมนตรีเดิม ได้กำหนดเป้าหมายการรับจำนำวงเงินในการรับจำนำข้าวเปลือกและราคารับจำนำไว้แล้ว โดยมีเป้าหมายการรับจำนำ 8 ล้านตันข้าวเปลือก จำนวนเงินประมาณ 120,000 ล้านบาท
ส่วนราคารับจำนำหากเป็นข้าวเปลือกเจ้าจะอยู่ที่ 14,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกหอมมะลิ อยู่ที่ 16,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเหนียวอยู่ที่ 9,000-10,000 บาทต่อตัน แต่เนื่องจากขณะนี้เห็นว่า ราคาข้าวตลาดโลกปรับตัวลดลง จึงต้องพิจารณาทบทวนราคารับจำนำข้าวเปลือกให้เหมาะสมกับสถานการณ์ แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมวันพรุ่งนี้
นายสุชาติ กล่าวว่า ในส่วนของงบประมาณที่จะนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี มีวงเงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท และมีเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติมอีก 50,000-60,00 ล้านบาท ส่วนที่เหลือธนาคารกรุงไทยและธนาคารออมสิน ยินดีจะปล่อยเงินกู้เพิ่มเติมให้ ธ.ก.ส. และในการคิดดอกเบี้ยของทั้ง 2 ธนาคาร จะอยู่ที่ไม่เกินร้อยละ 5 แต่อาจจะต่ำกว่านี้ ซึ่งจะมีข้อสรุปในการประชุมวันพรุ่งนี้เช่นกัน
สำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี จะเริ่มเปิดรับจำนำ ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งจากมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และมติคณะรัฐมนตรีเดิม ได้กำหนดเป้าหมายการรับจำนำวงเงินในการรับจำนำข้าวเปลือกและราคารับจำนำไว้แล้ว โดยมีเป้าหมายการรับจำนำ 8 ล้านตันข้าวเปลือก จำนวนเงินประมาณ 120,000 ล้านบาท
ส่วนราคารับจำนำหากเป็นข้าวเปลือกเจ้าจะอยู่ที่ 14,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกหอมมะลิ อยู่ที่ 16,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเหนียวอยู่ที่ 9,000-10,000 บาทต่อตัน แต่เนื่องจากขณะนี้เห็นว่า ราคาข้าวตลาดโลกปรับตัวลดลง จึงต้องพิจารณาทบทวนราคารับจำนำข้าวเปลือกให้เหมาะสมกับสถานการณ์ แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมวันพรุ่งนี้
นายสุชาติ กล่าวว่า ในส่วนของงบประมาณที่จะนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี มีวงเงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท และมีเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติมอีก 50,000-60,00 ล้านบาท ส่วนที่เหลือธนาคารกรุงไทยและธนาคารออมสิน ยินดีจะปล่อยเงินกู้เพิ่มเติมให้ ธ.ก.ส. และในการคิดดอกเบี้ยของทั้ง 2 ธนาคาร จะอยู่ที่ไม่เกินร้อยละ 5 แต่อาจจะต่ำกว่านี้ ซึ่งจะมีข้อสรุปในการประชุมวันพรุ่งนี้เช่นกัน