นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมัน กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงอุตสาหกรรมชะลอแผนส่งเสริมรถยนต์ อี85 ว่า การตัดสินใจดังกล่าวอาจมาจากแรงกดดันของค่ายรถยนต์ โดยเฉพาะค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นที่ยังไม่ต้องการพัฒนารถยนต์ อี85 ในขณะนี้ ทั้งนี้ เห็นว่ารถยนต์ อี85 ควรปล่อยให้เป็นนโยบายระยะยาวในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เพราะปัจจุบันผู้ค้าน้ำมันยังไม่มีการลงทุนมากนัก ซึ่ง ปตท.มีเพียง 1-2 ปั๊ม ส่วนบางจากยังไม่ได้เปิดจำหน่าย หากแผนดังกล่าวต้องเลื่อนออกไปเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหามากนัก เพราะควรรอให้มีความพร้อมมากกว่านี้ก่อน ทั้งค่ายรถยนต์ ผู้ค้าน้ำมัน ในขณะที่น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี10 และ อี20 ยังเปิดจำหน่ายไม่เต็มที่ โดยเฉพาะ อี20 ที่มี ปตท.และบางจาก เปิดขายเพียง 2 รายเท่านั้น และรัฐบาลควรสนับสนุนให้ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี10 และ อี20 เป็นพลังงานงานหลักของประเทศ รวมทั้งควรเพิ่มส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี10 และ อี20 ให้มากขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.30 บาทต่อลิตร เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี20 เพิ่มขึ้น
นายมนูญ กล่าวอีกว่า การเดินหน้าส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 85 ต้องดูด้วยว่าหากนำเอทานอลมาใช้ทดแทนเนื้อน้ำมันร้อยละ 85 แล้วจะนำน้ำมันเบนซินไปไว้ที่ไหน อีกทั้ง ควรพิจารณาปรับลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ อี85 ให้เทียบเท่ากับรถยนต์เอ็นจีวี ที่ร้อยละ 20 และหากเกรงว่าจะกระทบรถยนต์อีโคคาร์ก็ควรลดภาษีในรถยนต์ขนาด 3,000 ซีซีขึ้นไป
นายมนูญ กล่าวอีกว่า การเดินหน้าส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 85 ต้องดูด้วยว่าหากนำเอทานอลมาใช้ทดแทนเนื้อน้ำมันร้อยละ 85 แล้วจะนำน้ำมันเบนซินไปไว้ที่ไหน อีกทั้ง ควรพิจารณาปรับลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ อี85 ให้เทียบเท่ากับรถยนต์เอ็นจีวี ที่ร้อยละ 20 และหากเกรงว่าจะกระทบรถยนต์อีโคคาร์ก็ควรลดภาษีในรถยนต์ขนาด 3,000 ซีซีขึ้นไป