บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ระบุว่า การเกิดวิกฤตทางการเงินในสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นตลาดเงินที่ใหญ่ที่สุดของโลกและขยายวงกว้างไปยังประเทศในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ย่อมส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกรองเท้าของไทย รวมทั้งประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ที่ผ่านมาการขยายตัวของการส่งออกรองเท้าไทยโดยรวมมีแนวโน้มชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เมื่อเกิดวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐฯ จะยิ่งทำให้สภาวะการส่งออกรองเท้าของไทยชะลอตัวลงมากกว่าเดิม ดังนั้น ผู้ประกอบการรองเท้าไทยจึงควรหาทางปรับตัวด้วยการหาตลาดส่งออกใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหม่ที่เศรษฐกิจมีการเติบโตและมีจำนวนประชากรมาก อาทิ จีน อินเดีย รัสเซีย แอฟริกา ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง และเอเชีย เป็นต้น โดยเฉพาะสหภาพยุโรป (อียู) ที่เป็นตลาดส่งออกหลักอีกตลาดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตทางการเงินสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการรองเท้าไทยยังต้องรับมือกับความผันผวนทางด้านอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น ทั้งแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จะส่งผลกระทบทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ดังนั้น ผู้ประกอบการในธุรกิจรองเท้าจึงควรเน้นการบริหารการเงินเพื่อทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลงและบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนไปพร้อมๆ กันด้วย
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการรองเท้าไทยยังต้องรับมือกับความผันผวนทางด้านอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น ทั้งแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จะส่งผลกระทบทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ดังนั้น ผู้ประกอบการในธุรกิจรองเท้าจึงควรเน้นการบริหารการเงินเพื่อทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลงและบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนไปพร้อมๆ กันด้วย