นายประภัสร์ จงสงวน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดนัดการบินไทย มีประชาชนและแฟนพันธุ์แท้พรรคพลังประชาชน (พปช.) ขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก พร้อมกล่าวถึงผลสำรวจล่าสุดของสำนักโพล ที่คะแนนนิยมเริ่มดีขึ้น แต่ยังตามหลังผู้สมัครฯ รายอื่นว่า ตนยังไม่เห็นผลโพลดังกล่าว แต่เชื่อว่าจะไม่ใช่ข้อสรุปที่แท้จริงของการเลือกตั้ง เนื่องจากประชากรใน กทม. มีมากถึง 4 ล้านคน และต้องดูที่คำถามด้วยว่าถามแบบใด
ขณะเดียวกัน อยากให้สำนักโพลต่าง ๆ ไปสำรวจความคิดเห็นของข้าราชการ กทม. เพราะจากการหาเสียงกับข้าราชการ กทม. เมื่อวานนี้ ทำให้แปลกใจว่า 4 ปีที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น และทำไมข้าราชการ กทม. จึงมีความรู้สึกแบบนี้
นายประภัสร์ กล่าวถึงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ว่า ไม่มีกลยุทธ์ใหม่ หรือนโยบายใหม่ในการหาเสียง แต่อยากให้ประชาชนพิจารณาผลงานที่ผ่านมาของตนมากกว่า เพราะการที่มีนโยบายสวยหรู แต่ทำไม่ได้ เปรียบเหมือนกับการเขียนนวนิยาย อยากให้ประชาชนย้อนไปดู 4 ปีที่ผ่านมา อดีตผู้ว่าฯ กทม. มีการหาเสียงเรื่องต่าง ๆ ทำได้จริงแค่ไหน ทั้งเรื่องคนพิการ สิ่งแวดล้อม หากวันนี้ประชาชนเอาแต่ดูนโยบายก็จะหลงประเด็นเข้าใจผิดต่อไป
นายประภัสร์ กล่าวถึงการขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่หน้าห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว ในวันนี้ ที่จะมีแกนนำพรรคพลังประชาชนร่วมปราศรัย อาทิ ร.ต.อ.เฉลิมอยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะกระทบกับคะแนนเสียงโดยเฉพาะกลุ่มคนที่ไม่ชอบรัฐบาลหรือไม่ ว่า แม้ตนจะเป็นผู้สมัครสังกัดพรรคการเมือง แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองระดับชาติ เพราะตนไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นนักบริหารที่ต้องการเข้ามาทำงานให้ประเทศชาติ พร้อมยืนยันว่า ไม่กังวลที่การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีผู้มาใช้สิทธิน้อย จนอาจเกิดผลกระทบกับคะแนนของตน แต่กังวลเรื่องความโปร่งใสของการจัดการเลือกตั้ง เพราะได้ข่าวมาเรื่อย ๆ และฝากถึงข้าราชการ กทม. ทำทุกอย่างให้โปร่งใส ไม่ต้องกลัวที่จะไม่ก้าวหน้า หากทำทุกอย่างถูกต้อง
ขณะเดียวกัน อยากให้สำนักโพลต่าง ๆ ไปสำรวจความคิดเห็นของข้าราชการ กทม. เพราะจากการหาเสียงกับข้าราชการ กทม. เมื่อวานนี้ ทำให้แปลกใจว่า 4 ปีที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น และทำไมข้าราชการ กทม. จึงมีความรู้สึกแบบนี้
นายประภัสร์ กล่าวถึงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ว่า ไม่มีกลยุทธ์ใหม่ หรือนโยบายใหม่ในการหาเสียง แต่อยากให้ประชาชนพิจารณาผลงานที่ผ่านมาของตนมากกว่า เพราะการที่มีนโยบายสวยหรู แต่ทำไม่ได้ เปรียบเหมือนกับการเขียนนวนิยาย อยากให้ประชาชนย้อนไปดู 4 ปีที่ผ่านมา อดีตผู้ว่าฯ กทม. มีการหาเสียงเรื่องต่าง ๆ ทำได้จริงแค่ไหน ทั้งเรื่องคนพิการ สิ่งแวดล้อม หากวันนี้ประชาชนเอาแต่ดูนโยบายก็จะหลงประเด็นเข้าใจผิดต่อไป
นายประภัสร์ กล่าวถึงการขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่หน้าห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว ในวันนี้ ที่จะมีแกนนำพรรคพลังประชาชนร่วมปราศรัย อาทิ ร.ต.อ.เฉลิมอยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะกระทบกับคะแนนเสียงโดยเฉพาะกลุ่มคนที่ไม่ชอบรัฐบาลหรือไม่ ว่า แม้ตนจะเป็นผู้สมัครสังกัดพรรคการเมือง แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองระดับชาติ เพราะตนไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นนักบริหารที่ต้องการเข้ามาทำงานให้ประเทศชาติ พร้อมยืนยันว่า ไม่กังวลที่การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีผู้มาใช้สิทธิน้อย จนอาจเกิดผลกระทบกับคะแนนของตน แต่กังวลเรื่องความโปร่งใสของการจัดการเลือกตั้ง เพราะได้ข่าวมาเรื่อย ๆ และฝากถึงข้าราชการ กทม. ทำทุกอย่างให้โปร่งใส ไม่ต้องกลัวที่จะไม่ก้าวหน้า หากทำทุกอย่างถูกต้อง