นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยสถานการณ์การส่งออกข้าวไทย ในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปี 2551 ว่า ประเทศผู้นำเข้าหลายประเทศยังมีความต้องการนำเข้าข้าวของไทย จึงมีโอกาสสูงที่จะเพิ่มการส่งออกข้าวได้อีก
นางอภิรดี กล่าวว่า เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่ไม่มีการกำหนดมาตรการควบคุมการส่งออก จึงคาดว่าในปีนี้ไทยจะสามารถส่งข้าวได้ประมาณ 9.5 -10 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,795-6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญ ได้แก่ ไนจีเรีย เบนิน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สหภาพยุโรป อิรัก ไอเวอรีโคสต์ ขณะที่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 18 กันยายน ที่ผ่านมา ไทยส่งข้าวออกไปแล้ว 8.08 ล้านตัน มูลค่า 4,908 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 158,857 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีปริมาณ 5.79 ล้านตัน มูลค่า 2,177 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 75,578 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.48 , 125.42 และ 110.19 ของปริมาณและมูลค่าตามลำดับ โดยราคาส่งออกเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นเป็นตันละ 607 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ตันละ 376 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 61.61
สำหรับปี 2552 คาดว่า สถานการณ์ข้าวโลกจะไม่มีความผันผวนมากเหมือนในปี 2551 โดยปริมาณข้าวโลกจะลดความตึงตัวลง เนื่องจากผลผลิตข้าวโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ความต้องการข้าวในตลาดโลกยังอยู่ในระดับสูงซึ่งเป็นผลจากปริมาณการบริโภคข้าวโลกที่เพิ่มขึ้น คาดว่าปริมาณการค้าข้าวโลก ในปี 2552 จะอยู่ที่ 28.25 ล้านตัน โดยประเทศผู้ส่งออกข้าวที่สำคัญยังคงเป็นไทย เวียดนาม สหรัฐฯ ปากีสถาน และอินเดีย
ขณะที่ประเทศผู้นำเข้าข้าวที่สำคัญคือ ฟิลิปปินส์ ไนจีเรีย สหภาพยุโรป ซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน อิรัก และมาเลเซีย โดยไทยจะยังคงเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก โดยจะส่งออกข้าวประมาณ 9-9.5 ล้านตัน มูลค่า 4,950-5,225 ดอลลาร์สหรัฐฯ
นางอภิรดี กล่าวว่า เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่ไม่มีการกำหนดมาตรการควบคุมการส่งออก จึงคาดว่าในปีนี้ไทยจะสามารถส่งข้าวได้ประมาณ 9.5 -10 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,795-6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญ ได้แก่ ไนจีเรีย เบนิน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สหภาพยุโรป อิรัก ไอเวอรีโคสต์ ขณะที่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 18 กันยายน ที่ผ่านมา ไทยส่งข้าวออกไปแล้ว 8.08 ล้านตัน มูลค่า 4,908 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 158,857 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีปริมาณ 5.79 ล้านตัน มูลค่า 2,177 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 75,578 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.48 , 125.42 และ 110.19 ของปริมาณและมูลค่าตามลำดับ โดยราคาส่งออกเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นเป็นตันละ 607 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ตันละ 376 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 61.61
สำหรับปี 2552 คาดว่า สถานการณ์ข้าวโลกจะไม่มีความผันผวนมากเหมือนในปี 2551 โดยปริมาณข้าวโลกจะลดความตึงตัวลง เนื่องจากผลผลิตข้าวโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ความต้องการข้าวในตลาดโลกยังอยู่ในระดับสูงซึ่งเป็นผลจากปริมาณการบริโภคข้าวโลกที่เพิ่มขึ้น คาดว่าปริมาณการค้าข้าวโลก ในปี 2552 จะอยู่ที่ 28.25 ล้านตัน โดยประเทศผู้ส่งออกข้าวที่สำคัญยังคงเป็นไทย เวียดนาม สหรัฐฯ ปากีสถาน และอินเดีย
ขณะที่ประเทศผู้นำเข้าข้าวที่สำคัญคือ ฟิลิปปินส์ ไนจีเรีย สหภาพยุโรป ซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน อิรัก และมาเลเซีย โดยไทยจะยังคงเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก โดยจะส่งออกข้าวประมาณ 9-9.5 ล้านตัน มูลค่า 4,950-5,225 ดอลลาร์สหรัฐฯ