ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวถึงกรณีที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า แสดงให้เห็นว่า 6 พรรคร่วมรัฐบาลประกาศและลงมติที่จะให้พรรคพลังประชาชนจัดตั้งรัฐบาล ไม่เลือกที่จะมีรัฐบาลแห่งชาติตามที่หลายฝ่ายเสนอ ซึ่งเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าจะไม่เป็นการซ้ำเติมหรือก่อสร้างเงื่อนไขปัญหา ที่สำคัญต้องฟื้นฟูกอบกู้ความเป็นเอกภาพ สมานฉันท์ สงบเรียบร้อยของผู้คนในชาติ ซึ่งพิสูจน์สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ก็ถือว่าล้มเหลว
สิ่งที่รัฐบาลใหม่จะต้องละเว้นคือไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นเงื่อนไขสู่การขัดแย้งทางการมือง เช่น การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดำเนินการต่างๆ ที่เอื้อประโยชน์ต่อนักการเมือง ที่สำคัญต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือแสดงให้เห็นว่าเป็นการช่วยเหลือในทางคดีแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ จะต้องทุ่มเทให้กับการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ปากท้องของชาวบ้านซึ่งประชาชนกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ และสิ่งนี้เป็นเงื่อนไขหนึ่งในหลายเงื่อนไขที่จะสร้างเสถียรภาพหรือความเสียหายให้แก่รัฐบาล เพราะหากมัวหมกมุ่นผลประโยชน์ทางการเมืองอย่างเดียวจะเกิดการลุกฮือของประชาชนขึ้นมา ซึ่งนายสมชาย จะไม่สามารถทนแรงเสียดทาน ความกดดันทางการเมืองได้ อาจตัดสินใจยุบสภาและลาออกไปในที่สุด
ศ.ดร.สมบัติ กล่าวอีกว่า ส่วนการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้นจะยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากขณะนี้พวกเขายังไม่มีหลักประกันอะไรที่เป็นเงื่อนไขให้ยุติการชุมนุม ซึ่งการชุมนุมก็สามารถดำเนินการต่อไปได้หากเป็นไปโดยสงบ สันติ ทั้งนี้ก็เห็นสมควรที่จะต้องให้เวลาพิสูจน์การทำงานของรัฐบาลด้วย
สิ่งที่รัฐบาลใหม่จะต้องละเว้นคือไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นเงื่อนไขสู่การขัดแย้งทางการมือง เช่น การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดำเนินการต่างๆ ที่เอื้อประโยชน์ต่อนักการเมือง ที่สำคัญต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือแสดงให้เห็นว่าเป็นการช่วยเหลือในทางคดีแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ จะต้องทุ่มเทให้กับการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ปากท้องของชาวบ้านซึ่งประชาชนกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ และสิ่งนี้เป็นเงื่อนไขหนึ่งในหลายเงื่อนไขที่จะสร้างเสถียรภาพหรือความเสียหายให้แก่รัฐบาล เพราะหากมัวหมกมุ่นผลประโยชน์ทางการเมืองอย่างเดียวจะเกิดการลุกฮือของประชาชนขึ้นมา ซึ่งนายสมชาย จะไม่สามารถทนแรงเสียดทาน ความกดดันทางการเมืองได้ อาจตัดสินใจยุบสภาและลาออกไปในที่สุด
ศ.ดร.สมบัติ กล่าวอีกว่า ส่วนการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้นจะยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากขณะนี้พวกเขายังไม่มีหลักประกันอะไรที่เป็นเงื่อนไขให้ยุติการชุมนุม ซึ่งการชุมนุมก็สามารถดำเนินการต่อไปได้หากเป็นไปโดยสงบ สันติ ทั้งนี้ก็เห็นสมควรที่จะต้องให้เวลาพิสูจน์การทำงานของรัฐบาลด้วย