บรรยากาศการชุมนุมช่วงเย็นวันศุกร์ค่อนข้างคึกคักเพราะมีประชาชนมาร่วมสมทบ โดยบางส่วนถือโอกาสซื้อของที่ระลึกเกี่ยวกับการชุมนุม ซึ่งวันนี้มีสินค้าหลากหลาย อย่างไรก็ตามช่วงเย็นมีฝนตกลงมาโปรยปรายสร้างอุปสรรคต่อการชุมนุม เพราะฝนที่ตกลงมาติดต่อกันหลายวันทำให้พื้นที่เฉอะแฉะมีน้ำขัง
ส่วนบนเวทีเน้นประเด็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองโจมตีพรรคพลังประชาชน ย้ำไม่ว่าจะเลือกใครใน 3 ส.เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ถือว่าเป็นนอมินี และจะเป็นต้นเหตุของปัญหาการเมือง
นายวีระ สมความคิด กล่าวว่า เหตุที่สภาล่มเพราะ ส.ส.บางกลุ่มไม่พอใจกลุ่มนายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งการสรรหานายกรัฐมนตรีในวันที่ 17 กันยายนนี้ เห็นว่า พันธมิตรฯ ไม่ควรไป แต่จะรอดูท่าทีว่าพรรคพลังประชาชนจะเสนอชื่อนายสมัคร สุนทรเวช กลับเข้ามาใหม่หรือไม่ หากเสนอกลับเข้ามาจะทำให้ปัญหายืดเยื้อ และถือว่าเป็นชัยชนะที่สะสมทีละเล็กทีละน้อย ซึ่งพันธมิตรฯ จะรอฉลองใหญ่ในวันที่ศาลฎีกาตัดสินคดีที่ดินรัชดา และวันที่นายสมัครจะถูกพิพากษาคดีหมิ่นประมาท นายวีระ กล่าวอีกว่า พรรคพลังประชาชนเตรียมเสนอนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อผลักดันงบประมาณให้เสร็จก่อนยุบสภาและเลือกตั้งใหม่
ด้านนายสำราญ รอดเพ็ชร แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 กล่าวเช่นกันว่า การที่สภาล่มถือเป็นชัยชนะหนึ่งที่เกิดจากการกดดันของพันธมิตรฯ จนทำให้พรรคการเมืองไม่เลือกนายสมัคร และบอกผู้ชุมนุมว่า ขณะนี้มีผู้เสนอแนวคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือให้งดใช้บางมาตรา เพื่อผ่าทางตันของประเทศ โดยเฉพาะมาตรา 171 ให้นายกรัฐมนตรีไม่ต้องมาจาก ส.ส. โดยอาจงดใช้ 6 เดือน - 1 ปี ซึ่งเปิดโอกาสให้คนกลางมาแก้ปัญหาขัดแย้ง และพันธมิตรพร้อมจะรับฟัง
นอกจากนี้บนเวทีปราศรัยยังวิเคราะห์ว่า ทางออกปัญหาการเมืองมี 4 แนวทาง และหนึ่งในนั้นคือจะมีพลังพิเศษมาสร้างการเมือง และหลายคนไม่เห็นด้วย แต่พลังพิเศษที่เกิดขึ้นจะช่วยบริหารบ้านเมือง และคลี่คลายสถานการณ์เมืองได้ โดยขอให้จับตาดูพลังพิเศษในช่วง 5 วันอันตรายก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ก่อนหน้านี้ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข มองว่า ปัญหาสภาล่มเกิดจากความขัดแย้งภายใน และไม่ว่าจะเปลี่ยนตัวเป็นใครยังมอว่าเป็นนอมินี จึงจะเดินหน้าขับไล่ไปถึงที่สุด โดยจะติดตามสถานการณ์และประเมินเป็นระยะ ส่วนข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาติ พันธมิตรฯ ยังไม่ได้หารือ แต่จะขอดูให้เป็นรูปธรรมก่อน ทั้งนี้ยอมรับเป็นไปได้ยาก และหากมีการเปลี่ยนขั้วการเมืองเป็นประชาธิปัตย์จับมือพรรคร่วมรัฐบาล จะขอฟังเสียงส่วนใหญ่ก่อน
ส่วนบนเวทีเน้นประเด็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองโจมตีพรรคพลังประชาชน ย้ำไม่ว่าจะเลือกใครใน 3 ส.เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ถือว่าเป็นนอมินี และจะเป็นต้นเหตุของปัญหาการเมือง
นายวีระ สมความคิด กล่าวว่า เหตุที่สภาล่มเพราะ ส.ส.บางกลุ่มไม่พอใจกลุ่มนายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งการสรรหานายกรัฐมนตรีในวันที่ 17 กันยายนนี้ เห็นว่า พันธมิตรฯ ไม่ควรไป แต่จะรอดูท่าทีว่าพรรคพลังประชาชนจะเสนอชื่อนายสมัคร สุนทรเวช กลับเข้ามาใหม่หรือไม่ หากเสนอกลับเข้ามาจะทำให้ปัญหายืดเยื้อ และถือว่าเป็นชัยชนะที่สะสมทีละเล็กทีละน้อย ซึ่งพันธมิตรฯ จะรอฉลองใหญ่ในวันที่ศาลฎีกาตัดสินคดีที่ดินรัชดา และวันที่นายสมัครจะถูกพิพากษาคดีหมิ่นประมาท นายวีระ กล่าวอีกว่า พรรคพลังประชาชนเตรียมเสนอนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อผลักดันงบประมาณให้เสร็จก่อนยุบสภาและเลือกตั้งใหม่
ด้านนายสำราญ รอดเพ็ชร แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 กล่าวเช่นกันว่า การที่สภาล่มถือเป็นชัยชนะหนึ่งที่เกิดจากการกดดันของพันธมิตรฯ จนทำให้พรรคการเมืองไม่เลือกนายสมัคร และบอกผู้ชุมนุมว่า ขณะนี้มีผู้เสนอแนวคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือให้งดใช้บางมาตรา เพื่อผ่าทางตันของประเทศ โดยเฉพาะมาตรา 171 ให้นายกรัฐมนตรีไม่ต้องมาจาก ส.ส. โดยอาจงดใช้ 6 เดือน - 1 ปี ซึ่งเปิดโอกาสให้คนกลางมาแก้ปัญหาขัดแย้ง และพันธมิตรพร้อมจะรับฟัง
นอกจากนี้บนเวทีปราศรัยยังวิเคราะห์ว่า ทางออกปัญหาการเมืองมี 4 แนวทาง และหนึ่งในนั้นคือจะมีพลังพิเศษมาสร้างการเมือง และหลายคนไม่เห็นด้วย แต่พลังพิเศษที่เกิดขึ้นจะช่วยบริหารบ้านเมือง และคลี่คลายสถานการณ์เมืองได้ โดยขอให้จับตาดูพลังพิเศษในช่วง 5 วันอันตรายก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ก่อนหน้านี้ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข มองว่า ปัญหาสภาล่มเกิดจากความขัดแย้งภายใน และไม่ว่าจะเปลี่ยนตัวเป็นใครยังมอว่าเป็นนอมินี จึงจะเดินหน้าขับไล่ไปถึงที่สุด โดยจะติดตามสถานการณ์และประเมินเป็นระยะ ส่วนข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาติ พันธมิตรฯ ยังไม่ได้หารือ แต่จะขอดูให้เป็นรูปธรรมก่อน ทั้งนี้ยอมรับเป็นไปได้ยาก และหากมีการเปลี่ยนขั้วการเมืองเป็นประชาธิปัตย์จับมือพรรคร่วมรัฐบาล จะขอฟังเสียงส่วนใหญ่ก่อน