น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการข้าวครบวงจร ได้เห็นชอบให้ขยายปริมาณการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ประจำปีการผลิต 2551 เพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านตัน จากเดิมกำหนดเป้าหมายที่ 2.5 ล้านตันเพิ่มเป็น 3.5 ล้านตัน หลังจากพบว่ามีชาวนาได้เร่งปลูกข้าวเปลือกนาปรังกันมากจนทำล่าสุดมีชาวนานำข้าวเปลือกมาเข้าโครงการรับจำนำแล้วถึง 2.2 ล้านตัน ขณะที่ยังเหลือเวลารับจำนำอีกประมาณ 1 เดือน คือภายในวันที่ 30 กันยายนนี้ จึงทำให้ต้องขยายปริมาณข้าวเพิ่มเติมอีก โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ต้องรับภาระเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ขยายเวลาการปิดบัญชีโครงการจากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ออกไปเป็น 31 มีนาคม 2552 เพื่อให้มีระยะเวลาในการดำเนินงานมากขึ้น โดยไม่ต้องเร่งรัดใด ๆ รวมทั้งยังเห็นชอบให้เร่งการจำหน่ายข้าวในสตอกเดิมที่มีอยู่ 2.1 ล้านตัน โดยเร็วที่สุด เพื่อระบายข้าวที่ส่วนใหญ่เป็นข้าวที่รับจำนำมาตั้งแต่ปีการผลิต 2548 โดยเน้นการขายแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือ จีทูจี หากมีคำสั่งซื้อหรือออร์เดอร์เกินจากสตอกเดิมก็สามารถขายข้าวนาปรังที่รับจำนำล่าสุดได้ ซึ่งปัจจุบันมีคำสั่งซื้อข้าวจากต่างประเทศมากกว่า 20 ประเทศ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ขยายเวลาการปิดบัญชีโครงการจากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ออกไปเป็น 31 มีนาคม 2552 เพื่อให้มีระยะเวลาในการดำเนินงานมากขึ้น โดยไม่ต้องเร่งรัดใด ๆ รวมทั้งยังเห็นชอบให้เร่งการจำหน่ายข้าวในสตอกเดิมที่มีอยู่ 2.1 ล้านตัน โดยเร็วที่สุด เพื่อระบายข้าวที่ส่วนใหญ่เป็นข้าวที่รับจำนำมาตั้งแต่ปีการผลิต 2548 โดยเน้นการขายแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือ จีทูจี หากมีคำสั่งซื้อหรือออร์เดอร์เกินจากสตอกเดิมก็สามารถขายข้าวนาปรังที่รับจำนำล่าสุดได้ ซึ่งปัจจุบันมีคำสั่งซื้อข้าวจากต่างประเทศมากกว่า 20 ประเทศ