นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 1 - 30 กันยายน 2551 เป็นช่วงถือศีลอดเดือนรอมฎอนของพี่น้องมุสลิม ขอให้พี่น้องมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกคนได้ปฏิบัติตนตามแนวทางศาสนาอย่างเคร่งครัด ขณะที่ถือศีลอดควรมีจิตสำนึก มีความเอื้ออาทรและเมตตาซึ่งกันและกัน ตลอดจนเชิญชวนให้ทำความดี สร้างความสมานสามัคคี ช่วยเหลือสังคม สร้างความสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยเป็นแบบอย่างที่ดีตามแนวทางอิสลาม
เดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่มีความหมายอย่างลึกซึ้งกับชาวมุสลิมอย่างยิ่ง เพราะเป็นเดือนแห่งการประทานอัลกุรอาน เพื่อเป็นธรรมนูญชีวิตของมุสลิม และทางนำแห่งมนุษยชาติ เป็นเดือนแห่งการขออภัยโทษ เดือนแห่งการสร้างสมคุณงามความดีที่แฝงเร้นด้วยความจำเริญและเป็นสิริมงคลพื้นฐาน อีกทั้งเป็นเดือนแห่งการบริจาค เสียสละ เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อองค์อัลเลาะห์
ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวอีกว่า สำหรับการถือศีลอดนั้น พี่น้องมุสลิมจะไม่รับประทานอาหาร หรือดื่มอะไรในเวลากลางวัน เพื่อเป็นการเตือนสติว่า สิ่งดีในชีวิตมีไว้เพื่อใช้ประโยชน์ไม่ใช่หมกมุ่นจนเกินเหตุ รวมทั้งเป็นการแสดงถึงความเสมอภาคระหว่างคนมีฐานะดีกับคนจน และเป็นช่วงเวลาที่มุสลิมจะได้ศึกษาปฏิบัติวินัยควบคุมตนเอง ตลอดจนการช่วยเหลือสังคมอีกด้วย
เดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่มีความหมายอย่างลึกซึ้งกับชาวมุสลิมอย่างยิ่ง เพราะเป็นเดือนแห่งการประทานอัลกุรอาน เพื่อเป็นธรรมนูญชีวิตของมุสลิม และทางนำแห่งมนุษยชาติ เป็นเดือนแห่งการขออภัยโทษ เดือนแห่งการสร้างสมคุณงามความดีที่แฝงเร้นด้วยความจำเริญและเป็นสิริมงคลพื้นฐาน อีกทั้งเป็นเดือนแห่งการบริจาค เสียสละ เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อองค์อัลเลาะห์
ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวอีกว่า สำหรับการถือศีลอดนั้น พี่น้องมุสลิมจะไม่รับประทานอาหาร หรือดื่มอะไรในเวลากลางวัน เพื่อเป็นการเตือนสติว่า สิ่งดีในชีวิตมีไว้เพื่อใช้ประโยชน์ไม่ใช่หมกมุ่นจนเกินเหตุ รวมทั้งเป็นการแสดงถึงความเสมอภาคระหว่างคนมีฐานะดีกับคนจน และเป็นช่วงเวลาที่มุสลิมจะได้ศึกษาปฏิบัติวินัยควบคุมตนเอง ตลอดจนการช่วยเหลือสังคมอีกด้วย
