นางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.เชียงราย เยี่ยม น.ส.ขนิษฐา กิจศิริกาญจน์ที่ถูกแก๊สน้ำตา และสะเก็ดระเบิดที่ขาตั้งแต่เอวจนถึงข้อเท้า ซึ่งแพทย์ได้ผ่าตัดนำสะเก็ดระเบิดออกแล้ว ส่วนอาการแสบตาและแสบร้อนผิวหนังก็ดีขึ้นแล้ว
โดย น.ส.ขนิษฐา เปิดเผยว่า ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ไม่น่าทำร้ายกันแบบนี้ ขณะที่นางเตือนใจ กล่าวว่า การถามผู้บาดเจ็บก็ได้รับการยืนยันว่า เห็นการขว้างปาคล้ายวัตถุระเบิดออกมาจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น แม้รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะปฏิเสธเป็นฝีมือของตำรวจ แต่ควรตรวจสอบเหตุการณ์นี้ถึงที่มาของวัตถุระเบิด และผู้กระทำ
นพ.สุรเชษฐ์ สถิตินิรามัย ผู้อำนวยการสำนักงานบริการการแพทย์ฉุกเฉิน หรือศูนย์นเรนทร เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บจากหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลเมื่อคืนนี้มี 36 คน จำนวนนี้โดนแก๊สน้ำตา 32 คน ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี 2 คน ในจำนวนนี้ถูกยิงด้วยกระสุนยางที่ขาบาดเจ็บเล็กน้อย และที่โรงพยาบาลวชิระ 30 คน ส่วนใหญ่กลับบ้านได้ มีเพียง 1 คนที่เป็นโรคหอบหืดยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยตามแขนและขาจากระเบิดปิงปอง 3 คน ถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีแล้ว ส่วนการดูแลผู้ถุกแก๊สน้ำตาควรหลับตา และใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูก และตาเพื่อปอ้งกันการระคายเคือง หลีกเลี่ยงการสัมผัสเป็นเวลานาน เนื่องจากจะทำให้เยื่อบุหายใจถูกทำลายหายใจไม่ออก ส่วนผู้ถูกแก๊สน้ำตาปริมาณมากๆ จะต้องได้รับการรักษาโดยด่วน โดยให้อ็อกซิเจนและน้ำเกลือทางหลอดเลือด เพื่อขับสารพิษออกจากร่างกาย ทั้งนี้ผู้ที่ต้องระมัดระวังแก๊สน้ำตามากเป็นพิเศษคือ ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคหัวใจ หอบหืด และเด็กเล็ก
โดย น.ส.ขนิษฐา เปิดเผยว่า ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ไม่น่าทำร้ายกันแบบนี้ ขณะที่นางเตือนใจ กล่าวว่า การถามผู้บาดเจ็บก็ได้รับการยืนยันว่า เห็นการขว้างปาคล้ายวัตถุระเบิดออกมาจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น แม้รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะปฏิเสธเป็นฝีมือของตำรวจ แต่ควรตรวจสอบเหตุการณ์นี้ถึงที่มาของวัตถุระเบิด และผู้กระทำ
นพ.สุรเชษฐ์ สถิตินิรามัย ผู้อำนวยการสำนักงานบริการการแพทย์ฉุกเฉิน หรือศูนย์นเรนทร เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บจากหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลเมื่อคืนนี้มี 36 คน จำนวนนี้โดนแก๊สน้ำตา 32 คน ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี 2 คน ในจำนวนนี้ถูกยิงด้วยกระสุนยางที่ขาบาดเจ็บเล็กน้อย และที่โรงพยาบาลวชิระ 30 คน ส่วนใหญ่กลับบ้านได้ มีเพียง 1 คนที่เป็นโรคหอบหืดยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยตามแขนและขาจากระเบิดปิงปอง 3 คน ถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีแล้ว ส่วนการดูแลผู้ถุกแก๊สน้ำตาควรหลับตา และใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูก และตาเพื่อปอ้งกันการระคายเคือง หลีกเลี่ยงการสัมผัสเป็นเวลานาน เนื่องจากจะทำให้เยื่อบุหายใจถูกทำลายหายใจไม่ออก ส่วนผู้ถูกแก๊สน้ำตาปริมาณมากๆ จะต้องได้รับการรักษาโดยด่วน โดยให้อ็อกซิเจนและน้ำเกลือทางหลอดเลือด เพื่อขับสารพิษออกจากร่างกาย ทั้งนี้ผู้ที่ต้องระมัดระวังแก๊สน้ำตามากเป็นพิเศษคือ ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคหัวใจ หอบหืด และเด็กเล็ก
