ผศ.ธีรภัทร วรรณฤมล อาจารย์ประจำคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และผู้อำนวยการสถานีวิทยุเสียงสื่อสารมวลชน เอฟเอ็ม 100 กล่าวถึงการที่สื่อมวลชนนำเสนอภาพตำรวจใช้กำลังเข้าสลายม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น เป็นหน้าที่ของสื่อที่ต้องรายงานสถานการณ์บ้านเมือง แต่ภาพที่ออกไปอาจมีทั้งผลดีและผลเสีย ซึ่งผลดีคือการทำให้รัฐบาลรู้ว่าการกระทำใดๆ ก็ตาม ประชาชนทั้งประเทศกำลังเฝ้าจับตาดูอยู่ซึ่ง ซึ่งจะช่วยป้องปรามไม่ให้มีการใช้ความรุนแรงไปมากกว่านี้ ขณะที่ผลเสียอาจเป็นการกระตุ้นให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลออกจากบ้านมาร่วมสมทบการชุมนุมกันมากขึ้น เพราะเห็นว่าการทำร้ายประชาชนเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
ผศ.ธีรภัทร กล่าวว่า สำหรับการรายงานข่าวสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ ประชาชนผู้บริโภคสื่อจะต้องไตร่ตรองให้มากขึ้น เพราะภาพข่าวเดียวกัน แต่เนื้อข่าวและบรรยายภาพแตกต่างกันไป โดยเฉพาะกับสื่อหนังสือพิมพ์ที่มีความหลากหลาย ประชาชนจะต้องพิจารณาเจตนารมย์ของหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับให้ดี รวมถึงต้องรับสื่อให้รอบด้านเพื่อเปรียบเทียบหาข้อเท็จจริงให้มากที่สุด
นอกจากนี้ ผศ.ธีรภัทร ยังกล่าวถึงการรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีว่า เอ็นบีทีเป็นสื่อของรัฐซึ่งหมายถึง "รัฐ ( รัด-ถะ)" ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเป็นของรัฐบาล เมื่อเอ็นบีทีใช้เงินภาษีของประชาชน จึงต้องเป็นกลาง ไม่เลือกข้าง เชื่อถือได้และเป็นสื่อของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นความเข้าใจผิดว่าสื่อของรัฐคือเป็นของรัฐบาล จนทำให้การรายงานข่าวเอนเอีงไปในฝั่งของรัฐบาล จึงหวังว่าวิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะทำให้สื่อของรัฐเป็นสื่อของประชาชนโดยแท้จริงในอนาคต
ผศ.ธีรภัทร กล่าวว่า สำหรับการรายงานข่าวสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ ประชาชนผู้บริโภคสื่อจะต้องไตร่ตรองให้มากขึ้น เพราะภาพข่าวเดียวกัน แต่เนื้อข่าวและบรรยายภาพแตกต่างกันไป โดยเฉพาะกับสื่อหนังสือพิมพ์ที่มีความหลากหลาย ประชาชนจะต้องพิจารณาเจตนารมย์ของหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับให้ดี รวมถึงต้องรับสื่อให้รอบด้านเพื่อเปรียบเทียบหาข้อเท็จจริงให้มากที่สุด
นอกจากนี้ ผศ.ธีรภัทร ยังกล่าวถึงการรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีว่า เอ็นบีทีเป็นสื่อของรัฐซึ่งหมายถึง "รัฐ ( รัด-ถะ)" ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเป็นของรัฐบาล เมื่อเอ็นบีทีใช้เงินภาษีของประชาชน จึงต้องเป็นกลาง ไม่เลือกข้าง เชื่อถือได้และเป็นสื่อของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นความเข้าใจผิดว่าสื่อของรัฐคือเป็นของรัฐบาล จนทำให้การรายงานข่าวเอนเอีงไปในฝั่งของรัฐบาล จึงหวังว่าวิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะทำให้สื่อของรัฐเป็นสื่อของประชาชนโดยแท้จริงในอนาคต