นายเผชิญ ขำโพธิ์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวภายหลังรายงานกรณีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกยึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ต่อนายจุลยุทธ หิรัณยวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ตนไม่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพยายามเข้าไปดูสถานการณ์ แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ ซึ่งได้รายงานสถานการณ์ให้นายจุลยุทธ ทราบ เพื่อนำรายงานคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ นายจุลยุทธ ได้กำชับให้ดูแลเจ้าหน้าที่ของเอ็นบีทีให้ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม จากการโทรศัพท์สอบถามสถานการณ์จากรักษาการผู้อำนวยการเอ็นบีที ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ ระบุว่า แม้การออกอากาศในส่วนกลางจะมีปัญหา แต่จะพยายามออกอากาศให้ได้เร็วที่สุด แต่ในส่วนของต่างจังหวัดที่มีศูนย์อยู่ 8 เขต ยังสามารถอกอากาศได้เพราะเป็นรายการของท้องถิ่น
นายเผชิญ กล่าวต่อว่า การดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่บุกยึด ที่มีการทำลายทรัพย์สินทางราชการ และทำร้ายเจ้าหน้าที่เอ็นบีทีนั้น คิดว่าบุคลากรเอ็นบีทีจะไปแจ้งความกับตำรวจ และเชื่อว่าตำรวจที่เข้าไปดูแลสถานการณ์ตั้งแต่ต้นคงได้เห็นภาพประจักษ์แก่สายตาแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น และคงดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายจุลยุทธ กล่าวว่า ขณะนี้เอเอสทีวียังไม่สามารถเกี่ยวสัญญาณของกรมประชาสัมพันธ์ได้ เพียงแต่ยึดสถานีเอาไว้ ทั้งนี้กรณีดังกล่าวได้ทราบล่วงหน้ามาแล้ว และได้วางแผนรับสถานการณ์ไว้หมด โดยทราบว่าจะมีการบุกยึด จึงมีการวางแผนและสั่งการไว้หมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการโทรศัพท์สอบถามสถานการณ์จากรักษาการผู้อำนวยการเอ็นบีที ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ ระบุว่า แม้การออกอากาศในส่วนกลางจะมีปัญหา แต่จะพยายามออกอากาศให้ได้เร็วที่สุด แต่ในส่วนของต่างจังหวัดที่มีศูนย์อยู่ 8 เขต ยังสามารถอกอากาศได้เพราะเป็นรายการของท้องถิ่น
นายเผชิญ กล่าวต่อว่า การดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่บุกยึด ที่มีการทำลายทรัพย์สินทางราชการ และทำร้ายเจ้าหน้าที่เอ็นบีทีนั้น คิดว่าบุคลากรเอ็นบีทีจะไปแจ้งความกับตำรวจ และเชื่อว่าตำรวจที่เข้าไปดูแลสถานการณ์ตั้งแต่ต้นคงได้เห็นภาพประจักษ์แก่สายตาแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น และคงดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายจุลยุทธ กล่าวว่า ขณะนี้เอเอสทีวียังไม่สามารถเกี่ยวสัญญาณของกรมประชาสัมพันธ์ได้ เพียงแต่ยึดสถานีเอาไว้ ทั้งนี้กรณีดังกล่าวได้ทราบล่วงหน้ามาแล้ว และได้วางแผนรับสถานการณ์ไว้หมด โดยทราบว่าจะมีการบุกยึด จึงมีการวางแผนและสั่งการไว้หมดแล้ว
