เอแบคโพลล์ เผยผลสำรวจ เรื่อง อารมณ์ความรู้สึกของสาธารณชนต่อสถานการณ์การเมืองของประเทศ โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน กทม. และปริมณฑล จำนวน 2,919 ตัวอย่าง พบว่า ร้อยละ 98.6 อยากเห็นสังคมไทยสงบสุข ร้อยละ 95.8 เห็นว่าการเมืองเป็นเรื่องสำคัญของประเทศ และร้อยละ 80.8 เชื่อเรื่องบาปบุญ คุณโทษ และกฎแห่งกรรมมากขึ้น ร้อยละ 79.7 พอใจต่อการทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของตำรวจที่ไม่ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม
นอกจากนี้ พบว่าร้อยละ 77 พอใจต่อการวางตัวเป็นกลางทางการเมืองของกองทัพบก ร้อยละ 76 เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ยังพบว่าประชาชนที่วิตกกังวลต่อเหตุการณ์การเมืองสูงขึ้นจากร้อยละ 65.2 ในเดือนพฤศจิกายน 2550 มาอยู่ที่ร้อยละ 77.5 ในเดือนสิงหาคม 2551 และประชาชนที่เครียดต่อเรื่องการเมืองเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 34.9 มาอยู่ที่ร้อยละ 59.5 แต่ประชาชนร้อยละ 53.4 เชื่อมั่นว่า นักการเมืองรุ่นใหม่จะประพฤติปฏิบัติตนได้ดีขึ้น หลังศาลได้พิจารณาคดีนักการเมือง
เอแบคโพลล์ ระบุด้วยว่าร้อยละ 46.2 จะมีการเลือกตั้งทั่วไปของ ส.ส. ครั้งใหม่เกิดขึ้นภายในปีนี้ ขณะที่ร้อยละ 24.7 ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น และร้อยละ 29.1 ไม่มีความเห็น และร้อยละ 51.8 คิดว่าจะมีการโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งใหม่ ร้อยละ 30.2 คิดว่าจะมีการซื้อสิทธิขายเสียงเพิ่มขึ้น ในขณะที่เพียงร้อยละ 21.1 คิดว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ เที่ยงธรรม และร้อยละ 16.2 คิดว่าการซื้อสิทธิขายเสียงจะลดน้อยลง
สำหรับข้อเสนอแนะวิธีการแก้ปัญหาซื้อสิทธิขายเสียงและการโกงการเลือกตั้งครั้งใหม่ ผลสำรวจพบว่า ร้อยละ 19.5 สร้างจิตสำนึก ส่งเสริมจริยธรรมให้ประชาชน ต้องสำนึกรักชาติ มีคุณธรรม ปลูกฝังอุดมการณ์ ร้อยละ 18.2 ออกกฎหมายเพิ่มโทษให้หนักขึ้น ร้อยละ 17.7 ตรวจสอบการวางตัวของเจ้าหน้าที่รัฐ ร้อยละ 14.6 ควบคุมสอดส่องดูแลให้เข้มงวด จริงจัง ร้อยละ 13 ให้ความรู้แก่ประชาชน
นอกจากนี้ ยังสำรวจพบว่า ประชาชนร้อยละ 60 ยังไม่มีพรรคการเมืองในใจหากวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง เพราะรอดูนโยบายและผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี แต่ร้อยละ 39 ระบุมีพรรคการเมืองในความตั้งใจที่จะเลือกแล้ว ส่วนหัวข้อทางออกที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์การเมืองของประเทศไทยขณะนี้คืออะไร พบว่า ร้อยละ 38.7 เลือกตั้งใหม่ ร้อยละ 26.3 ระบุปรับคณะรัฐมนตรีและทำงานต่อไป ร้อยละ 19.5 ระบุการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ พบว่าร้อยละ 77 พอใจต่อการวางตัวเป็นกลางทางการเมืองของกองทัพบก ร้อยละ 76 เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ยังพบว่าประชาชนที่วิตกกังวลต่อเหตุการณ์การเมืองสูงขึ้นจากร้อยละ 65.2 ในเดือนพฤศจิกายน 2550 มาอยู่ที่ร้อยละ 77.5 ในเดือนสิงหาคม 2551 และประชาชนที่เครียดต่อเรื่องการเมืองเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 34.9 มาอยู่ที่ร้อยละ 59.5 แต่ประชาชนร้อยละ 53.4 เชื่อมั่นว่า นักการเมืองรุ่นใหม่จะประพฤติปฏิบัติตนได้ดีขึ้น หลังศาลได้พิจารณาคดีนักการเมือง
เอแบคโพลล์ ระบุด้วยว่าร้อยละ 46.2 จะมีการเลือกตั้งทั่วไปของ ส.ส. ครั้งใหม่เกิดขึ้นภายในปีนี้ ขณะที่ร้อยละ 24.7 ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น และร้อยละ 29.1 ไม่มีความเห็น และร้อยละ 51.8 คิดว่าจะมีการโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งใหม่ ร้อยละ 30.2 คิดว่าจะมีการซื้อสิทธิขายเสียงเพิ่มขึ้น ในขณะที่เพียงร้อยละ 21.1 คิดว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ เที่ยงธรรม และร้อยละ 16.2 คิดว่าการซื้อสิทธิขายเสียงจะลดน้อยลง
สำหรับข้อเสนอแนะวิธีการแก้ปัญหาซื้อสิทธิขายเสียงและการโกงการเลือกตั้งครั้งใหม่ ผลสำรวจพบว่า ร้อยละ 19.5 สร้างจิตสำนึก ส่งเสริมจริยธรรมให้ประชาชน ต้องสำนึกรักชาติ มีคุณธรรม ปลูกฝังอุดมการณ์ ร้อยละ 18.2 ออกกฎหมายเพิ่มโทษให้หนักขึ้น ร้อยละ 17.7 ตรวจสอบการวางตัวของเจ้าหน้าที่รัฐ ร้อยละ 14.6 ควบคุมสอดส่องดูแลให้เข้มงวด จริงจัง ร้อยละ 13 ให้ความรู้แก่ประชาชน
นอกจากนี้ ยังสำรวจพบว่า ประชาชนร้อยละ 60 ยังไม่มีพรรคการเมืองในใจหากวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง เพราะรอดูนโยบายและผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี แต่ร้อยละ 39 ระบุมีพรรคการเมืองในความตั้งใจที่จะเลือกแล้ว ส่วนหัวข้อทางออกที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์การเมืองของประเทศไทยขณะนี้คืออะไร พบว่า ร้อยละ 38.7 เลือกตั้งใหม่ ร้อยละ 26.3 ระบุปรับคณะรัฐมนตรีและทำงานต่อไป ร้อยละ 19.5 ระบุการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
