นายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มโรงงานผู้ผลิตกระป๋อง ซึ่งนำมาใช้ในอุตสากรรมแปรรูปอาหารได้ส่งสัญญาณจะมีการปรับราคากระป๋องขึ้นอีกประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของกระป๋องคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ ของมูลค่าอาหารกระป๋อง ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีโรงงานสับปะรดกระป๋องกว่า 20 แห่ง และตลาดหลักคือ ส่งออกต่างประเทศ
ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวยอมรับว่า ผลกระทบจะต่อเนื่องไปถึงเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด เนื่องจากผู้ประกอบการต้องกดราคารับซื้อเพื่อให้อยู่รอด คาดว่าช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เกษตรกรก็คงจะมีการร้องเรียนเรื่องราคาผลผลิตตกต่ำตามมาอีก
ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า บทบาทของภาครัฐที่ผ่านมา โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ โดยช่วงปลายปี 2550 และต้นปีที่ผ่านมา โรงงานผลิตกระป๋องขึ้นราคารวม 27 เปอร์เซ็นต์นั้น ผู้ประกอบการรวมตัวทำหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้เรียกโรงงานผลิตกระป๋องมาพูดคุย จนมีข้อสรุปที่จะขึ้นราคาแค่ 14-16 เปอร์เซ็นต์ แต่หลังจากกลับมาก็ยังยืนยันที่จะขึ้นราคาที่ 27 เปอร์เซ็นต์ โดยอ้างว่าราคาซึ่งตกลงกับกระทรวงพาณิชย์สามารถจัดส่งได้จำนวนหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากวัตถุดิบซึ่งต้องเป็นเหล็กต้นน้ำนำเข้าจากญี่ปุ่นและเกาหลี ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ
ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวยอมรับว่า ผลกระทบจะต่อเนื่องไปถึงเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด เนื่องจากผู้ประกอบการต้องกดราคารับซื้อเพื่อให้อยู่รอด คาดว่าช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เกษตรกรก็คงจะมีการร้องเรียนเรื่องราคาผลผลิตตกต่ำตามมาอีก
ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า บทบาทของภาครัฐที่ผ่านมา โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ โดยช่วงปลายปี 2550 และต้นปีที่ผ่านมา โรงงานผลิตกระป๋องขึ้นราคารวม 27 เปอร์เซ็นต์นั้น ผู้ประกอบการรวมตัวทำหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้เรียกโรงงานผลิตกระป๋องมาพูดคุย จนมีข้อสรุปที่จะขึ้นราคาแค่ 14-16 เปอร์เซ็นต์ แต่หลังจากกลับมาก็ยังยืนยันที่จะขึ้นราคาที่ 27 เปอร์เซ็นต์ โดยอ้างว่าราคาซึ่งตกลงกับกระทรวงพาณิชย์สามารถจัดส่งได้จำนวนหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากวัตถุดิบซึ่งต้องเป็นเหล็กต้นน้ำนำเข้าจากญี่ปุ่นและเกาหลี ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ