วันนี้ประเทศไทยจะรับมอบตำแหน่งประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ต่อจากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งไทยจะได้ดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน อย่างน้อย 1 ปีเต็ม เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 ไปจนกระทั่งถึงกลางปี 2552 แต่หากกฎบัตรอาเซียน ซึ่งอยู่ระหว่างการให้สัตยาบันของประเทศสมาชิกอาเซียน สามารถบังคับใช้ได้ทัน ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 14 ที่กรุงเทพมหานคร ในเดือนธันวาคมนี้ จะมีผลให้ไทยมีวาระเป็นประธานอาเซียนถึงหนึ่งปีครึ่งคือ จนถึงสิ้นปี 2552 แต่มี 3 ประเทศ ที่ยังไม่ให้การรับรองกฎบัตรอาเซียนคือ ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งในส่วนของไทย การให้สัตยาบันต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน
สำหรับภารกิจที่ไทยมุ่งปฏิบัติให้สำเร็จในระหว่างการเป็นประธานอาเซียนคือ ให้มีการลงนาม 2 ฉบับ 1.ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน 2.ประชาคมการเมืองและความมั่นคงของอาเซียนเพื่อให้ครบ 3 ฉบับ เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีการลงนามเรื่องประชาคมเศรษฐกิจของอาเซียนไปแล้ว ซึ่งหากประเทศอาเซียนสามารถลงนามได้จริง ก็จะก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียน สร้างความเป็นปึกแผ่น และอำนาจการต่อรองในเวทีโลก ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมมากขึ้น ซึ่งที่สุดจะส่งผลดีต่อประชาชนในภูมิภาคนี้
สำหรับภารกิจที่ไทยมุ่งปฏิบัติให้สำเร็จในระหว่างการเป็นประธานอาเซียนคือ ให้มีการลงนาม 2 ฉบับ 1.ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน 2.ประชาคมการเมืองและความมั่นคงของอาเซียนเพื่อให้ครบ 3 ฉบับ เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีการลงนามเรื่องประชาคมเศรษฐกิจของอาเซียนไปแล้ว ซึ่งหากประเทศอาเซียนสามารถลงนามได้จริง ก็จะก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียน สร้างความเป็นปึกแผ่น และอำนาจการต่อรองในเวทีโลก ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมมากขึ้น ซึ่งที่สุดจะส่งผลดีต่อประชาชนในภูมิภาคนี้