นายนรชิต สิงหเสนี รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 31 ที่ กรุงไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อปี 2550 สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ไทยและกัมพูชาไม่ได้มีการลงนามเข้าตกลงให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นการไปรับทราบคำแถลงของประธานคณะกรรมการมรดกโลกที่ไทยและกัมพูชาเห็นพ้องกัน ว่า ปราสาทพระวิหารมีคุณค่าสากลที่โดดเด่น และจะต้องได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก แต่ทั้งนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องกันต่อไปว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องทำการอนุรักษ์และบริหารจัดการปราสาท รวมทั้งให้มีการพัฒนาแผนการจัดการที่เหมาะสมตามที่กำหนดให้มีความคืบหน้า โดยทั้งสองฝ่ายจะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ทั้งด้านเรื่องหลักเขตแดนที่มีอยู่ รวมถึงเตรียมแผนบริหารจัดการร่วมกันที่จะต้องมี
ทางด้านนายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การเดินทางไปประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 32 ที่แคนาดาของนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ยืนยันว่าจะดำเนินการตามมติของคณะรัฐมนตรีในวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ให้ชะลอการขอขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารไว้ก่อน ตามคำตัดสินของศาลปกครองที่มีคำสั่งออกมา
ทางด้านนายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การเดินทางไปประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 32 ที่แคนาดาของนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ยืนยันว่าจะดำเนินการตามมติของคณะรัฐมนตรีในวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ให้ชะลอการขอขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารไว้ก่อน ตามคำตัดสินของศาลปกครองที่มีคำสั่งออกมา