xs
xsm
sm
md
lg

“บัวแก้ว” แจง รบ.“ขิงแก่” แค่รับทราบมติคณะ กก.มรดกโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี
รองปลัด ก.ต่างประเทศ แจงเนื้อหาการประชุมคณะ กก.มรดกโลก ที่ไครสท์เชิร์ท เมื่อปี 50 เป็นมติของคณะ กก.มรดกโลก ที่ รบ.“สุรยุทธ์” รับทราบเท่านั้น ขณะเดียวกัน หนุนเขมรขึ้นทะเบียน แต่ต้องดำเนินการร่วมกัน แต่เขมรกลับยื่นจดฝ่ายเดียว ไทยจึงประท้วง ชี้ให้เห็นยังมีปัญหาพื้นที่ทับซ้อน

วันนี้ (6 ก.ค.) นายนรชิต สิงหเสนี รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายกิจการพหุภาคี แถลงว่า ได้รับมอบหมายจาก นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มาชี้แจงเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 31 ที่เมืองไครสท์เชิร์ท ประเทศนิวซีแลนด์ ปี 2550 ในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ซึ่งขณะนั้นตนอยู่ในคณะผู้แทนฝ่ายไทย ในฐานะปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ที่ดูแลความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา

ซึ่งตามหลักการฝ่ายไทยเสนอสนับสนุนกัมพูชาจดทะเบียนปราสาทพระวิหาร แต่ต้องดำเนินการร่วมกัน เพราะมีองค์ประกอบอื่นๆ อยู่ที่ฝั่งไทย แต่กัมพูชา เห็นว่า ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา ก็ยื่นขึ้นทะเบียนได้เอง ส่วนไทยจะยื่นเสนอจดทะเบียนก็เป็นเรื่องของไทยดำเนินการเอง และเมื่อต้นปี 2550 พบว่า กัมพูชาเตรียมยื่นจดทะเบียนเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียว และยื่นแผนที่ที่มีแนวกันชนที่ยื่นล้ำเขตเข้ามาในพื้นที่ที่ฝ่ายไทยอ้างสิทธิ์ทับซ้อน ดังนั้น ไทยจึงได้ประท้วง และชี้แจงประเทศต่างๆ เพื่อชี้ให้เห็นว่ายังมีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนในบริเวณดังกล่าว

นายนรชิต กล่าวด้วยว่า เนื้อหาในเอกสารการประชุมดังกล่าว เป็นมติของคณะกรรมการมรดกโลก ไม่ใช่ไทย หรือ กัมพูชา เป็นผู้เสนอ แต่สองประเทศเป็นเพียงผู้รับรองเนื้อหาในเอกสารเท่านั้น ซึ่งทุกฝ่ายเห็นด้วยกับคุณค่าสากลที่โดดเด่นของปราสาทพระวิหาร แต่ว่ายังมีปัญหา จึงต้องเลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไป มาเป็นการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยที่ 32 ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก รับทราบว่า ปราสาทพระวิหารจำเป็นต้องได้รับการเอาใจใส่อย่างรีบด่วน และต้องการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างไทยกับกัมพูชา
กำลังโหลดความคิดเห็น