นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยภายหลังเดินทางไปเป็นประธานปลูกป่าจำนวน 9,000 ต้น บนพื้นที่ 370 ไร่ บริเวณรอบพิพิธภัณฑ์สิรินธร ซึ่งเป็นสถานที่แสดงและขุดค้นซากฟอสซิลไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ตามโครงการ "ทส.สัญจร ปลูกป่า พลิกพื้นผืนป่าด้วยพระบารมี" เพื่อคืนพื้นที่สีเขียว ลดภาวะโลกร้อนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และเดินทางไปดูอ่างเก็บน้ำลำปาว สถานที่ที่จะรองรับน้ำที่จะผันขึ้นมาจากน้ำโขงตามนโยบายของรัฐบาล เมื่อบ่ายวันนี้ (3 ก.ค.) ว่า ตามที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มีนโยบายจะผันน้ำจากแม่น้ำโขง และแม่น้ำงึม ประเทศลาวเข้ามาให้ประชาชนในภาคอีสานได้ใช้ผ่านทางลำน้ำชี ลำน้ำเลย และอีกส่วนหนึ่งนำมาเก็บไว้ที่อ่างเก็บน้ำลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์นั้น ขณะนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเตรียมพร้อมที่จะรองรับโครงการนี้ไว้แล้ว โดยกรมทรัพยากรน้ำได้เตรียมวางแผนและออกแบบโครงการทั้งสองจุด คาดว่าใช้งบประมาณรวมประมาณ 70,000 ล้านบาท ส่วนผู้รับผิดชอบดำเนินการนั้นอยู่ที่นายกรัฐมนตรีว่าจะมอบให้หน่วยงานใด อาจจะเป็นลักษณะการบูรณาการหลายหน่วยงานร่วมกันทำก็ได้ เมื่อโครงการแล้วเสร็จประชาชนและเกษตรกรน่าจะได้ใช้น้ำฟรี แต่หากเป็นการใช้ปริมาณมากหรือเพื่ออุตสาหกรรมอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายบ้าง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังเปิดเผยถึงการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่ป่าเหลือเพียง 104.7 ล้านไร่ หรือร้อยละ 33 ของพื้นที่ประเทศ ว่า กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีโครงการจะปลูกป่าทดแทน 22.7 ล้านไร่ โดยตั้งเป้าว่าจะปลูกปีละประมาณ 2 แสนไร่ และขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน ทุกภาคส่วนร่วมกันปลูกป่า เพื่อสร้างความสมดุลกลับคืนสู่ธรรมชาติและระบบนิเวศน์อย่างยั่งยืน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังเปิดเผยถึงการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่ป่าเหลือเพียง 104.7 ล้านไร่ หรือร้อยละ 33 ของพื้นที่ประเทศ ว่า กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีโครงการจะปลูกป่าทดแทน 22.7 ล้านไร่ โดยตั้งเป้าว่าจะปลูกปีละประมาณ 2 แสนไร่ และขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน ทุกภาคส่วนร่วมกันปลูกป่า เพื่อสร้างความสมดุลกลับคืนสู่ธรรมชาติและระบบนิเวศน์อย่างยั่งยืน
