นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ราคาน้ำมันในปัจจุบันนับเป็นปัจจัยที่ 5 ที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ซึ่งประเทศต้องบริหารจัดการราคาพลังงานให้สมดุลกัน เพื่อไม่ให้เกิดการขาดแคลนในอนาคต โดยเฉพาะแอลพีจี (LPG) ที่ขณะนี้มีสัดส่วนการใช้ในครัวเรือนลดลง จากร้อยละ 55 เหลือเพียงร้อยละ 51 เพราะนำไปใช้ทดแทนน้ำมันเตาในภาคอุตสาหกรรม และแทนเบนซินในภาคการขนส่ง และจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ทำให้ไทยจำเป็นต้องปรับราคาแอลพีจีเป็น 2 ราคา ป้องกันการนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมและการขนส่ง เพราะมีราคาถูกกว่าเบนซินถึงร้อยละ 50 ส่งผลให้ผู้ประกอบการและปั๊มก๊าซฉวยโอกาสปรับราคาติดตั้งถังแอลพีจีขึ้นเกือบเท่าตัว และกักตุนก๊าซไว้รอจำหน่ายหลังปรับราคาแอลพีจีแล้ว หากมีการกระทำดังกล่าวให้แจ้งไปที่กรมการค้าภายในดำเนินการทางกฎหมายทันที
ทั้งนี้ ยืนยันว่า กระทรวงพลังงานไม่สามารถประกาศราคาโครงสร้างแอลพีจีที่จะปรับให้ประชาชนทราบล่วงหน้าได้ เพราะเกรงจะเกิดปัญหาการลักลอบส่งออกและการกักตุนก๊าซ
รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การที่ประชาชนลดการใช้น้ำมันลง ทำให้การนำเข้าน้ำมันดิบของประเทศลดลง ในขณะเดียวกันส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตก๊าซแอลพีจีของโรงกลั่นน้ำมันที่มีการผลิตประมาณ 300,000 ตันต่อวัน ลดลง จนอาจจำเป็นต้องนำเข้าแอลพีจีในอนาคต หากประชาชนยังไม่ลดการใช้แอลพีจีผิดประเภท
ทั้งนี้ ยืนยันว่า กระทรวงพลังงานไม่สามารถประกาศราคาโครงสร้างแอลพีจีที่จะปรับให้ประชาชนทราบล่วงหน้าได้ เพราะเกรงจะเกิดปัญหาการลักลอบส่งออกและการกักตุนก๊าซ
รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การที่ประชาชนลดการใช้น้ำมันลง ทำให้การนำเข้าน้ำมันดิบของประเทศลดลง ในขณะเดียวกันส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตก๊าซแอลพีจีของโรงกลั่นน้ำมันที่มีการผลิตประมาณ 300,000 ตันต่อวัน ลดลง จนอาจจำเป็นต้องนำเข้าแอลพีจีในอนาคต หากประชาชนยังไม่ลดการใช้แอลพีจีผิดประเภท