ราคาน้ำมันดิบที่ซื้อขายกันในตลาดนิวยอร์กปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 4% ขึ้นมาทำสถิติใหม่ในราคากว่า 140 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากลิเบียประกาศว่าจะพิจารณาลดการผลิตน้ำมันเพื่อตอบโต้แรงกดดันของสหรัฐฯ ที่มีต่อประเทศผู้ผลิตน้ำมัน
ทั้งนี้ ในระหว่างการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์ก ราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 140.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนที่จะลงมาปิดที่ 139.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 5.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ลอนดอนปรับตัวสูงขึ้น 5.50 ดอลลาร์ ขึ้นมาอยู่ที่ 139.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระแสวิตกว่าน้ำมันจะไม่เพียงพอต่อการบริโภคเกิดขึ้นเมื่อ นายโชกรี กาเนม ประธานบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย จะพิจารณาลดการผลิตน้ำมันเพื่อตอบโต้ร่างกฎหมายของสหรัฐฯ ที่เสนอต่อรัฐสภาว่าจะให้อำนาจกระทรวงยุติธรรมฟ้องร้องกลุ่มโอเปกที่จำกัดการผลิตน้ำมัน กฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคม ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประกาศว่าหากรัฐสภาผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว เขาก็จะใช้อำนาจประธานาธิบดียับยั้ง
ลิเบียผลิตน้ำมันได้วันละ 1.71 ล้านบาร์เรล จากปริมาณน้ำมันที่กลุ่มโอเปกผลิตได้ทั้งหมดวันละ 32.12 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ทั้งนี้ ในระหว่างการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์ก ราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 140.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนที่จะลงมาปิดที่ 139.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 5.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ลอนดอนปรับตัวสูงขึ้น 5.50 ดอลลาร์ ขึ้นมาอยู่ที่ 139.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระแสวิตกว่าน้ำมันจะไม่เพียงพอต่อการบริโภคเกิดขึ้นเมื่อ นายโชกรี กาเนม ประธานบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย จะพิจารณาลดการผลิตน้ำมันเพื่อตอบโต้ร่างกฎหมายของสหรัฐฯ ที่เสนอต่อรัฐสภาว่าจะให้อำนาจกระทรวงยุติธรรมฟ้องร้องกลุ่มโอเปกที่จำกัดการผลิตน้ำมัน กฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคม ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประกาศว่าหากรัฐสภาผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว เขาก็จะใช้อำนาจประธานาธิบดียับยั้ง
ลิเบียผลิตน้ำมันได้วันละ 1.71 ล้านบาร์เรล จากปริมาณน้ำมันที่กลุ่มโอเปกผลิตได้ทั้งหมดวันละ 32.12 ล้านบาร์เรลต่อวัน