ทีมทนายความพันธมิตรฯ ยืนยันว่า พยานเอกสารที่นำมายื่นต่อศาลเมื่อช่วงเช้า เป็นพยานเอกสารที่สมบูรณ์ที่สุด
หลังการไต่สวนผู้ร้องทั้ง 9 คน ที่ขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งระงับมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบให้นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สนับสนุนประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ผู้ร้องที่ 1 ซึ่งเป็นคนให้ปากคำคนแรก ยืนยันว่า คำชี้แจงต่อศาลและพยานเอกสารข้อมูล ประวัติความเป็นมาของปราสาทพระวิหาร และวีซีดีของการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้านเกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลที่สมบูรณ์ หากศาลปกครองกลางพิจารณาแล้ว มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว จะส่งผลให้มติคณะรัฐมนตรีที่ลงนามสนับสนุน รวมถึงคำแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทยกับกัมพูชาเป็นโมฆะทันที และเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับประเทศกัมพูชา เนื่องจากกัมพูชาสามารถส่งเรื่องให้คณะกรรมการมรดกโลกพิจารณาโดยไม่จำเป็นที่ไทยต้องให้การสนับสนุน
ขณะเดียวกัน นายนคร ชมพูชาติ ทนายความ ยังบอกว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ได้ยื่นคัดค้านต่อศาล 3 ข้อด้วยกัน คือ 1. ทีมทนายความและกลุ่มพันธมิตรฯ มีอำนาจฟ้องหรือไม่ 2. ศาลไม่มีอำนาจในการพิจารณาไต่สวน รวมถึงยืนยันว่า คำแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวไม่ใช่สนธิสัญญา
ผู้ร้องทั้ง 9 คน ยังขอให้ศาลอ่านแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทยกัมพูชา ที่มีนายกฤต ไกรจิตติ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายกระทรวงการต่างประเทศ นำมาอ่านโดยละเอียด พร้อมให้ผู้ถูกร้องนำแผนที่มาเปิดเผยต่อสาธารณชน เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีใครเห็นแผนที่ดังกล่าว และขณะนี้ตัวแทนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กำลังนำหลักฐานยื่นต่อศาล เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับคำแถลงการณ์ร่วม รวมถึงแผนที่ด้วย
หลังการไต่สวนผู้ร้องทั้ง 9 คน ที่ขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งระงับมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบให้นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สนับสนุนประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ผู้ร้องที่ 1 ซึ่งเป็นคนให้ปากคำคนแรก ยืนยันว่า คำชี้แจงต่อศาลและพยานเอกสารข้อมูล ประวัติความเป็นมาของปราสาทพระวิหาร และวีซีดีของการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้านเกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลที่สมบูรณ์ หากศาลปกครองกลางพิจารณาแล้ว มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว จะส่งผลให้มติคณะรัฐมนตรีที่ลงนามสนับสนุน รวมถึงคำแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทยกับกัมพูชาเป็นโมฆะทันที และเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับประเทศกัมพูชา เนื่องจากกัมพูชาสามารถส่งเรื่องให้คณะกรรมการมรดกโลกพิจารณาโดยไม่จำเป็นที่ไทยต้องให้การสนับสนุน
ขณะเดียวกัน นายนคร ชมพูชาติ ทนายความ ยังบอกว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ได้ยื่นคัดค้านต่อศาล 3 ข้อด้วยกัน คือ 1. ทีมทนายความและกลุ่มพันธมิตรฯ มีอำนาจฟ้องหรือไม่ 2. ศาลไม่มีอำนาจในการพิจารณาไต่สวน รวมถึงยืนยันว่า คำแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวไม่ใช่สนธิสัญญา
ผู้ร้องทั้ง 9 คน ยังขอให้ศาลอ่านแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทยกัมพูชา ที่มีนายกฤต ไกรจิตติ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายกระทรวงการต่างประเทศ นำมาอ่านโดยละเอียด พร้อมให้ผู้ถูกร้องนำแผนที่มาเปิดเผยต่อสาธารณชน เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีใครเห็นแผนที่ดังกล่าว และขณะนี้ตัวแทนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กำลังนำหลักฐานยื่นต่อศาล เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับคำแถลงการณ์ร่วม รวมถึงแผนที่ด้วย