นายแพทย์ณรงค์ ฉายากุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ประจำเขตตรวจราชการที่ 15 และ 17 กล่าวภายหลังการประชุมการบูรณาการการป้องกันแก้ไขโรคเอดส์ ที่ จ.กระบี่ ว่า การป้องกันแก้ไขโรคเอดส์ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ ตั้งแต่ปี 2533 - 2538 มีอัตราการเกิดโรค ร้อยละ 20.65 และหลังจากนั้นจนถึงปี 2550 อัตราการเกิดโรคในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ประกอบด้วย จ.ชุมพร ระนอง พังงา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และ จ.กระบี่ ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 7.3 ซึ่งลดลงถึงร้อยละ 13.35 แต่อย่างไรก็ตามต้องมีการบูรณาการแก้ไขการป้องกันปัญหาอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันโรคเอดส์ไม่พบเฉพาะในผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงเท่านั้น แต่ได้ระบาดเข้าสู่ครอบครัว กลุ่มแม่บ้าน หญิงวัยเจริญพันธุ์ ถึงเด็กและทารก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษกิจ
ตั้งแต่ปี 2533 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2551 จ.กระบี่ มีผู้ป่วยเอดส์ จำนวน 1,612 ราย เสียชีวิตจำนวน 292 ราย ปัจจัยเสี่ยงที่พบมากที่สุดคือ การมีเพศสัมพันธ์ ร้อยละ 61.6 รองลงมาคือยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น ร้อยละ 16.7 จากแม่ผู้ติดเชื้อ ร้อยละ 4.4 โดยมากพบในกลุ่มทำงาน อายุ 25-29 ปี ร้อยละ 25.36 รองลงมากลุ่มอายุ 30-34 ปี ร้อยละ 22.92 และอาชีพที่พบมากที่สุด คือ อาชีพรับจ้างทั่วไป
ปัจจุบันโรคเอดส์ไม่พบเฉพาะในผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงเท่านั้น แต่ได้ระบาดเข้าสู่ครอบครัว กลุ่มแม่บ้าน หญิงวัยเจริญพันธุ์ ถึงเด็กและทารก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษกิจ
ตั้งแต่ปี 2533 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2551 จ.กระบี่ มีผู้ป่วยเอดส์ จำนวน 1,612 ราย เสียชีวิตจำนวน 292 ราย ปัจจัยเสี่ยงที่พบมากที่สุดคือ การมีเพศสัมพันธ์ ร้อยละ 61.6 รองลงมาคือยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น ร้อยละ 16.7 จากแม่ผู้ติดเชื้อ ร้อยละ 4.4 โดยมากพบในกลุ่มทำงาน อายุ 25-29 ปี ร้อยละ 25.36 รองลงมากลุ่มอายุ 30-34 ปี ร้อยละ 22.92 และอาชีพที่พบมากที่สุด คือ อาชีพรับจ้างทั่วไป
