วันนี้ (17 มิ.ย.) เวลา 09.00 น. นายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รับสั่งผ่านสำนักราชเลขาธิการ ให้ช่วยเหลือเด็กชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือในด้านค่าครองชีพ ทุนการศึกษาและที่อยู่อาศัย เนื่องจากบิดามารดาเสียชีวิต และต้องอยู่กับยาย
นายปรีชา กล่าวว่า เด็กคนดังกล่าว คือ นายเมธาพร จุมพิศ อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 ม.7 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยขณะนายเมธาพร เขียนจดหมายทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือนั้น มีอายุ 13 ปี เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2548 ซึ่งเขียนด้วยลายมือของตนเอง มีข้อความว่า "กระผม ด.ช.เมธาพร จุมพิศ อายุ 13 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.1/2 โรงเรียนประตูชัย บิดาชื่อ ประสาร จุมพิศ มารดาชื่อ อมรรัตน์ จุมพิศ ขณะนี้ทั้งสองคนเสียชีวิตแล้ว ขณะนี้อาศัยอยู่กับยายชื่อ อนงค์ ธารีสืบ อายุ 71 ปี โดยปลูกกระต๊อบอยู่ในที่ดินของเพื่อนบ้าน ซึ่งขณะนี้กำลังจะถูกยึด ปัจจุบันมีเฉพาะเงินบำนาญตกทอด เดือนละ 1,700 บาท ยายไม่สามารถประกอบอาชีพได้ จึงไม่มีเงินที่จะใช้จ่ายในการดำรงชีพ และค่าศึกษารวมทั้งอาจไม่มีที่อยู่อาศัย จึงขอได้โปรดกรุณาช่วยเหลือกระผมและยายด้วย"
ซึ่งความทราบฝ่าพระบาทแล้ว และมีรับสั่งผ่านราชเลขาธิการ ให้ประสานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการช่วยเหลือโดยด่วน ซึ่งการให้ความช่วยเหลือจนถึงขณะนี้ สำนักราชเลขาธิการจัดการสร้างบ้านชั้นเดียวให้นายเมธาพร สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จัดหาที่ดินเปล่าบริเวณวัดประดู่เก่า เขตเทศบาลเมืองอโยธยา เนื้อที่ 25 ตารางวา โดยเทศบาลเมืองอโยธยา เป็นผู้ออกค่าเช่า ส่วนเรื่องการศึกษานั้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 ให้ความช่วยเหลือด้วยการจัดสรรหนังสือยืมเรียน และเครื่องเขียน พร้อมให้ทุนการศึกษาแก่ผู้มีรายได้น้อย ปีละ 10,000 บาท และสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ให้ทุนการศึกษาปีละ 2,000 บาท
ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2551 ผู้แทนจากสำนักราชเลขาธิการ ได้มาตรวจติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างบ้านดังกล่าว โดยเทศบาลเมืองอโยธยา ชี้แจงเหตุที่ก่อสร้างล่าช้า เนื่องจากปัญหาการจัดส่งวัสดุก่อสร้างของร้านบ้านแพนวิสาหกิจ อำเภอเสนา ซึ่งเทศบาลเมืองอโยธยาฯ ได้เร่งรัดให้กองช่างฯ จัดหาวัสดุจากแหล่งอื่น และจะเร่งดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนมิถุนายน 2551
ล่าสุด นายอินทร์จันทร์ บุราพันธ์ เลขาธิการคณะองคมนตรี ปฏิบัติราชการแทนราชเลขาธิการ มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ รล 0009.5(1)/1799 ลงวันที่ 25 มกราคม 2551 เรื่องโครงการพระราชทานความช่วยเหลือ โดยสำนักราชเลขาธิการ จัดให้มีโครงการพระราชทานความช่วยเหลือ เพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณ และให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรที่ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ในการนี้ สำนักราชเลขาธิการพิจารณาแล้วเห็นว่า นายเมธาพร จุมพิต ผู้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่ครอบครัว ซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา สมควรได้รับความช่วยเหลือตามโครงการพระราชทานความช่วยเหลือ และจะมีการจัดพิธีมอบความช่วยเหลือแก่นายเมธาพร พร้อมมอบถุงพระราชทานการให้บริการทางการแพทย์ และการให้บริการปรึกษาทางกฎหมายแก่ราษฎรในพื้นที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา ส่วนวัน เวลา จะประสานอีกครั้งหนึ่ง
นายปรีชา กล่าวว่า เด็กคนดังกล่าว คือ นายเมธาพร จุมพิศ อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 ม.7 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยขณะนายเมธาพร เขียนจดหมายทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือนั้น มีอายุ 13 ปี เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2548 ซึ่งเขียนด้วยลายมือของตนเอง มีข้อความว่า "กระผม ด.ช.เมธาพร จุมพิศ อายุ 13 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.1/2 โรงเรียนประตูชัย บิดาชื่อ ประสาร จุมพิศ มารดาชื่อ อมรรัตน์ จุมพิศ ขณะนี้ทั้งสองคนเสียชีวิตแล้ว ขณะนี้อาศัยอยู่กับยายชื่อ อนงค์ ธารีสืบ อายุ 71 ปี โดยปลูกกระต๊อบอยู่ในที่ดินของเพื่อนบ้าน ซึ่งขณะนี้กำลังจะถูกยึด ปัจจุบันมีเฉพาะเงินบำนาญตกทอด เดือนละ 1,700 บาท ยายไม่สามารถประกอบอาชีพได้ จึงไม่มีเงินที่จะใช้จ่ายในการดำรงชีพ และค่าศึกษารวมทั้งอาจไม่มีที่อยู่อาศัย จึงขอได้โปรดกรุณาช่วยเหลือกระผมและยายด้วย"
ซึ่งความทราบฝ่าพระบาทแล้ว และมีรับสั่งผ่านราชเลขาธิการ ให้ประสานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการช่วยเหลือโดยด่วน ซึ่งการให้ความช่วยเหลือจนถึงขณะนี้ สำนักราชเลขาธิการจัดการสร้างบ้านชั้นเดียวให้นายเมธาพร สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จัดหาที่ดินเปล่าบริเวณวัดประดู่เก่า เขตเทศบาลเมืองอโยธยา เนื้อที่ 25 ตารางวา โดยเทศบาลเมืองอโยธยา เป็นผู้ออกค่าเช่า ส่วนเรื่องการศึกษานั้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 ให้ความช่วยเหลือด้วยการจัดสรรหนังสือยืมเรียน และเครื่องเขียน พร้อมให้ทุนการศึกษาแก่ผู้มีรายได้น้อย ปีละ 10,000 บาท และสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ให้ทุนการศึกษาปีละ 2,000 บาท
ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2551 ผู้แทนจากสำนักราชเลขาธิการ ได้มาตรวจติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างบ้านดังกล่าว โดยเทศบาลเมืองอโยธยา ชี้แจงเหตุที่ก่อสร้างล่าช้า เนื่องจากปัญหาการจัดส่งวัสดุก่อสร้างของร้านบ้านแพนวิสาหกิจ อำเภอเสนา ซึ่งเทศบาลเมืองอโยธยาฯ ได้เร่งรัดให้กองช่างฯ จัดหาวัสดุจากแหล่งอื่น และจะเร่งดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนมิถุนายน 2551
ล่าสุด นายอินทร์จันทร์ บุราพันธ์ เลขาธิการคณะองคมนตรี ปฏิบัติราชการแทนราชเลขาธิการ มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ รล 0009.5(1)/1799 ลงวันที่ 25 มกราคม 2551 เรื่องโครงการพระราชทานความช่วยเหลือ โดยสำนักราชเลขาธิการ จัดให้มีโครงการพระราชทานความช่วยเหลือ เพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณ และให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรที่ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ในการนี้ สำนักราชเลขาธิการพิจารณาแล้วเห็นว่า นายเมธาพร จุมพิต ผู้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่ครอบครัว ซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา สมควรได้รับความช่วยเหลือตามโครงการพระราชทานความช่วยเหลือ และจะมีการจัดพิธีมอบความช่วยเหลือแก่นายเมธาพร พร้อมมอบถุงพระราชทานการให้บริการทางการแพทย์ และการให้บริการปรึกษาทางกฎหมายแก่ราษฎรในพื้นที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา ส่วนวัน เวลา จะประสานอีกครั้งหนึ่ง