พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การยื่นขอสัมปทานปิโตรเลียมในรอบที่ 20 (ระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม 2550 – 22 พฤษภาคม 2551) ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยกระทรวงพลังงานยื่นขอสัมปทาน 65 แปลง เป็นแปลงบนบก 32 แปลง ในทะเลอ่าวไทย 9 แปลง พื้นที่รวม 235,606 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีการลงนามแล้ว 18 สัมปทาน รวม 21 แปลง อยู่ระหว่างรอลงนาม 5 แปลง และส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการปิโตรเลียมและกระทรวงพลังงาน ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติต่อไป
เฉพาะสัมปทานรอบที่ 20 นี้ จะทำให้เกิดการลงทุนช่วง 3 ปีแรกกว่า 3,900 ล้านบาท และหากค้นพบปิโตรเลียมจะทำให้เกิดการลงทุนต่อเนื่องกว่า 4,200 ล้านบาท จึงเร่งรัดการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศ ลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ และเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไทยสามารถผลิตปิโตรเลียมจากแหล่งภายในประเทศได้เป็นจำนวนเทียบเท่าน้ำมันดิบ 680,000 บาร์เรลต่อวัน สามารถทดแทนการนำเข้าปิโตรเลียมได้ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อวัน ส่งผลให้สามารถประหยัดเงินตรานำเข้าน้ำมันดิบกว่า 700,000 ล้านบาทต่อปี
เฉพาะสัมปทานรอบที่ 20 นี้ จะทำให้เกิดการลงทุนช่วง 3 ปีแรกกว่า 3,900 ล้านบาท และหากค้นพบปิโตรเลียมจะทำให้เกิดการลงทุนต่อเนื่องกว่า 4,200 ล้านบาท จึงเร่งรัดการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศ ลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ และเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไทยสามารถผลิตปิโตรเลียมจากแหล่งภายในประเทศได้เป็นจำนวนเทียบเท่าน้ำมันดิบ 680,000 บาร์เรลต่อวัน สามารถทดแทนการนำเข้าปิโตรเลียมได้ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อวัน ส่งผลให้สามารถประหยัดเงินตรานำเข้าน้ำมันดิบกว่า 700,000 ล้านบาทต่อปี