นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จากปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชน กระทรวงพาณิชย์จึงได้จัดโครงการธงฟ้า ราคาประหยัด เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มทางเลือก ในการซื้อสินค้าของประชาชน ภายในสัญญลักษณ์ "ธงฟ้า" โดยในพื้นที่กทม.และปริมณฑลรวม 13 ครั้ง และส่วนภูมิภาค12 จังหวัด จะมีการจัดงานตลอดเดือนมิถุนายน-กันยายน 2551 และในช่วงระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม-วันที่ 1 มิถุนายนนี้ กรมการค้าภายในได้ร่วมกับกองทัพไทยและหน่วยงานกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภคต่างๆ ร่วมจัดงาน "กองทัพไทย ร่วมธงฟ้ามหาชน ช่วยไทยประหยัด" บริเวณกรมการสื่อสารทหาร ถนนสรงประภา เขตดอนเมือง ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. เพื่อลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชนและครอบครัวทหาร โดยจะนำสินค้าถูกกว่าท้องตลาดร้อยละ 20-40 จำหน่ายภายในงาน และจัดโปรโมชั่น "ธงฟ้า..ท้าเงินเฟ้อ" โดยจะนำสินค้ามาลดพิเศษมากถึงร้อยละ 50
นอกจากนี้ กรมการค้าภายในจะร่วมกับกองทัพไทย จัดงานในส่วนกลางและภูมิภาคตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงธันวาคมนี้ โดยจะกระจายไปทุกเหล่าทัพ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเลือกซื้อสินค้าราคาถูก เช่น ข้าวถุงธงฟ้ามหาชน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้กระจายข้าวถุงธงฟ้าฯ จำนวน 1,500 ถุง ข้าวถุงเอกชน ผลไม้ เช่น เงาะ กิโลกรัมละ 11 บาท มังคุด กิโลกรัมละ 15 บาท สุกร กิโลกรัม 90-95 บาท ไข่ไก่เบอร์ 1 ถาดละ 89 บาท ไข่ไก่เบอร์ 5 ถาดละ 60 บาท และยังนำสินค้าอื่นๆ ไม่ว่าน้ำมันพืช กุ้ง เพื่อช่วยผู้บริโภคในยามสินค้าที่มีราคาแพงอยู่ขณะนี้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการติดตามดูแลราคาสินค้าทั่วไปในท้องตลาดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสินค้ารายการควบคุมยังคงต้องเข้มงวดในการปรับราคาสินค้า โดยสินค้าภายใต้ธงฟ้าจะถูกกว่า เพื่อดูแลผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยเป็นหลัก และไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบที่จะโก่งราคาสินค้าเอาเปรียบผู้บริโภคไม่ได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการลดผลกระทบให้กับผู้บริโภคช่วงที่สินค้าแพง จึงได้นำโครงการธงฟ้ามหาชนรวมกับหน่วยงานอื่นๆ ในเดือนมิถุนายนนี้จำนวน 22 ครั้ง เช่น กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง การท่าเรือแห่งประเทศไทย กรมธนารักษ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี สำนักเทศกิจ กทม. สำนักงานเขตต่างๆ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น
นอกจากนี้ กรมการค้าภายในจะร่วมกับกองทัพไทย จัดงานในส่วนกลางและภูมิภาคตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงธันวาคมนี้ โดยจะกระจายไปทุกเหล่าทัพ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเลือกซื้อสินค้าราคาถูก เช่น ข้าวถุงธงฟ้ามหาชน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้กระจายข้าวถุงธงฟ้าฯ จำนวน 1,500 ถุง ข้าวถุงเอกชน ผลไม้ เช่น เงาะ กิโลกรัมละ 11 บาท มังคุด กิโลกรัมละ 15 บาท สุกร กิโลกรัม 90-95 บาท ไข่ไก่เบอร์ 1 ถาดละ 89 บาท ไข่ไก่เบอร์ 5 ถาดละ 60 บาท และยังนำสินค้าอื่นๆ ไม่ว่าน้ำมันพืช กุ้ง เพื่อช่วยผู้บริโภคในยามสินค้าที่มีราคาแพงอยู่ขณะนี้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการติดตามดูแลราคาสินค้าทั่วไปในท้องตลาดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสินค้ารายการควบคุมยังคงต้องเข้มงวดในการปรับราคาสินค้า โดยสินค้าภายใต้ธงฟ้าจะถูกกว่า เพื่อดูแลผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยเป็นหลัก และไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบที่จะโก่งราคาสินค้าเอาเปรียบผู้บริโภคไม่ได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการลดผลกระทบให้กับผู้บริโภคช่วงที่สินค้าแพง จึงได้นำโครงการธงฟ้ามหาชนรวมกับหน่วยงานอื่นๆ ในเดือนมิถุนายนนี้จำนวน 22 ครั้ง เช่น กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง การท่าเรือแห่งประเทศไทย กรมธนารักษ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี สำนักเทศกิจ กทม. สำนักงานเขตต่างๆ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น