นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง และการออกเสียงประชามติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายได้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เสร็จแล้ว มีทั้งหมด 40 มาตรา มีรายละเอียดที่แตกต่างไปจาก พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติปี 2541 เล็กน้อย และวิธีการปฏิบัติแตกต่างกันเล็กน้อย เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 2550 ขั้นตอนต่อไปวันนี้เวลา 15.00 น.จะส่งร่างให้คณะกรรมการกิจการพรรคเมือง และการออกเสียงประชามติ เร่งพิจารณาและส่งความเห็นกลับมาให้ กกต.ชุดใหญ่พิจารณาต่อในวันพรุ่งนี้ ถ้าพรุ่งนี้ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายฉบับนี้ ก็ส่งให้ประธานรัฐสภาวันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคมนี้ได้เลย
นางสดศรี กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้เร่งทำกฎหมายเพื่อรับลูกรัฐบาล เพราะว่าจริงๆ ร่างเสร็จนานแล้ว แต่ไม่ได้ส่งให้คณะกรรมการตรวจสอบเท่านั้น เมื่อรัฐบาลต้องการเร่งกระบวนการก็ต้องไปว่าที่สภา ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของประธานรัฐสภาว่า จะให้พิจารณาอย่างไร ถ้ามีการเรียกประชุม 2 ฝ่าย พิจารณา 3 วาระรวด แบบนี้ก็จะเสร็จเร็ว พอผ่านสภาแล้ว กกต.ก็จะเดินหน้าทำประชามติได้ทันที และทักถ้วงแนวคิดนายกรัฐมนตรีที่อาจจะหยิบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติปี 2541 โดยเห็นว่า ถ้าเกิดยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2550 กฎหมายลูกต่างๆ ก็จะถูกยกเลิกไปด้วย ก็เลยเห็นว่าถ้าเกิดหยิบกฎหมายประชามติปี 2541 มาใช้ก็อาจจะมีการโต้แย้งภายหลัง เพราะฉะนั้นยืนตามร่างของ กกต.แบบนี้น่าจะง่ายกว่า
นางสดศรี กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้เร่งทำกฎหมายเพื่อรับลูกรัฐบาล เพราะว่าจริงๆ ร่างเสร็จนานแล้ว แต่ไม่ได้ส่งให้คณะกรรมการตรวจสอบเท่านั้น เมื่อรัฐบาลต้องการเร่งกระบวนการก็ต้องไปว่าที่สภา ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของประธานรัฐสภาว่า จะให้พิจารณาอย่างไร ถ้ามีการเรียกประชุม 2 ฝ่าย พิจารณา 3 วาระรวด แบบนี้ก็จะเสร็จเร็ว พอผ่านสภาแล้ว กกต.ก็จะเดินหน้าทำประชามติได้ทันที และทักถ้วงแนวคิดนายกรัฐมนตรีที่อาจจะหยิบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติปี 2541 โดยเห็นว่า ถ้าเกิดยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2550 กฎหมายลูกต่างๆ ก็จะถูกยกเลิกไปด้วย ก็เลยเห็นว่าถ้าเกิดหยิบกฎหมายประชามติปี 2541 มาใช้ก็อาจจะมีการโต้แย้งภายหลัง เพราะฉะนั้นยืนตามร่างของ กกต.แบบนี้น่าจะง่ายกว่า
