ทิม วิลเลียมส์ ผู้อำนวยการบริษัท วัย 33 ปี เล่าว่า ขณะเขากำลังขับรถอยู่บนทางหลวงสายเอ็ม 4 จากมาร์โบโรห์ในวิลท์เชียร์ไปยังกรุงลอนดอนพร้อมภรรยา ลูก และน้องสะใภ้ รถของเขาถูกขบวนรถของเจ้าชายแฮร์รีที่ตามหลังมาจี้หลังอย่างกระชั้นชิด และถูกบังคับให้ต้องขับรถในระดับความเร็วที่เป็นอันตรายต่อชีวิต
“มันน่ากลัวมาก พวกเขาทำให้เราตกใจ มันเป็นการขับรถที่เร็วมาก อย่างน้อยก็ประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตอนนั้นผมขับรถอยู่บนเลนกลางของถนน และกำลังจะเอารถเข้าจอดข้างทางหลังจากเห็นรถออดี อาร์ 8 คันหนึ่งในกระจก แต่หลังจากผมย้ายรถไปอีกเลนหนึ่ง ทันใดนั้นเองก็มีรถเรนจ์โรเวอร์อีกคันหนึ่งจี้หลังมาและเกือบจะชนรถผม ผมจึงรีบเร่งเครื่องให้เร็วขึ้น ผมคิดว่ารถเรนจ์โรเวอร์อาจจะกำลังแข่งอยู่กับรถออดี พวกเขากำลังเอาชีวิตมาเสี่ยงจริงๆ” วิลเลียมส์กล่าวขณะให้ปากคำกับตำรวจเมื่อคืนวันอาทิตย์ (18)
วิลเลียมส์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นเขาจึงรู้ว่ารถเรนจ์โรเวอร์คันดังกล่าวเป็นรถของตำรวจ หลังจากเห็นไฟสีน้ำเงินจากตะแกรงหน้ารถ และไม่มีทางเลือกที่จะต้องขับรถโดยเร่งเครื่องต่อไป ก่อนที่รถเรนจ์โรเวอร์จะขับแซงหน้าเขาไป และเขายังเห็นผู้โดยสารในรถกำหมัดด้วยความโกรธอีกด้วย
“อีก 20 นาทีต่อมาผมจึงขับมาเจอรถทั้ง 2 คันในย่านตะวันตกของกรุงลอนดอน ก่อนที่จะเห็นเจ้าชายแฮร์รีนั่งอยู่ในรถออดี ขณะที่มีผู้ชายคนหนึ่งทำหน้าที่ขับรถให้พระองค์ขณะที่พูดโทรศัพท์มือถือไปด้วย” วิลเลียมส์ให้ข้อมูลกับตำรวจ
ขณะที่ตำรวจเธมส์ วัลเลย์ กล่าวหลังได้รับแจ้งความว่า จะสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป
ทั้งนี้รายงานข่าว แจ้งว่า เจ้าชายแฮร์รี รัชทายาทลำดับที่ 3 ของราชวงศ์อังกฤษ พระชนมายุ 23 ชันษา ทรงใช้เวลาช่วงเย็นวันอาทิตย์ (18) อยู่ที่ไนท์คลับบูจิสในเคนซิงตัน ก่อนจะมีผู้เห็นพระองค์ในเหตุการณ์ดังกล่าว
“มันน่ากลัวมาก พวกเขาทำให้เราตกใจ มันเป็นการขับรถที่เร็วมาก อย่างน้อยก็ประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตอนนั้นผมขับรถอยู่บนเลนกลางของถนน และกำลังจะเอารถเข้าจอดข้างทางหลังจากเห็นรถออดี อาร์ 8 คันหนึ่งในกระจก แต่หลังจากผมย้ายรถไปอีกเลนหนึ่ง ทันใดนั้นเองก็มีรถเรนจ์โรเวอร์อีกคันหนึ่งจี้หลังมาและเกือบจะชนรถผม ผมจึงรีบเร่งเครื่องให้เร็วขึ้น ผมคิดว่ารถเรนจ์โรเวอร์อาจจะกำลังแข่งอยู่กับรถออดี พวกเขากำลังเอาชีวิตมาเสี่ยงจริงๆ” วิลเลียมส์กล่าวขณะให้ปากคำกับตำรวจเมื่อคืนวันอาทิตย์ (18)
วิลเลียมส์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นเขาจึงรู้ว่ารถเรนจ์โรเวอร์คันดังกล่าวเป็นรถของตำรวจ หลังจากเห็นไฟสีน้ำเงินจากตะแกรงหน้ารถ และไม่มีทางเลือกที่จะต้องขับรถโดยเร่งเครื่องต่อไป ก่อนที่รถเรนจ์โรเวอร์จะขับแซงหน้าเขาไป และเขายังเห็นผู้โดยสารในรถกำหมัดด้วยความโกรธอีกด้วย
“อีก 20 นาทีต่อมาผมจึงขับมาเจอรถทั้ง 2 คันในย่านตะวันตกของกรุงลอนดอน ก่อนที่จะเห็นเจ้าชายแฮร์รีนั่งอยู่ในรถออดี ขณะที่มีผู้ชายคนหนึ่งทำหน้าที่ขับรถให้พระองค์ขณะที่พูดโทรศัพท์มือถือไปด้วย” วิลเลียมส์ให้ข้อมูลกับตำรวจ
ขณะที่ตำรวจเธมส์ วัลเลย์ กล่าวหลังได้รับแจ้งความว่า จะสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป
ทั้งนี้รายงานข่าว แจ้งว่า เจ้าชายแฮร์รี รัชทายาทลำดับที่ 3 ของราชวงศ์อังกฤษ พระชนมายุ 23 ชันษา ทรงใช้เวลาช่วงเย็นวันอาทิตย์ (18) อยู่ที่ไนท์คลับบูจิสในเคนซิงตัน ก่อนจะมีผู้เห็นพระองค์ในเหตุการณ์ดังกล่าว