หลังจากที่นายชัย ชิดชอบ ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน ประกอบพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชัย ได้เข้าสู่ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร และขึ้นนั่งบัลลังก์ทำหน้าที่ประธานทันที โดยไม่มีการอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ที่ประชุมได้รับทราบ และได้มีการปฏิญาณตนกับที่ประชุมว่า จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง และทำให้สภาฯ เป็นที่ยอมรับ อย่างไรก็ตาม นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการลุกขึ้นประท้วงนายชัย ว่า ขาดความสง่างามและไร้เกียรติ เพราะการกระทำหน้าที่นั้นต้องแจ้งให้ที่ประชุมได้รับทราบถึงพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งก่อน ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ไม่ควรมีการเร่งรีบจนละเลยประเพณีอันดีงาม
ด้านนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ยอมรับว่า มีส่วนในการตัดสินใจให้นายชัย ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพราะกังวลว่า หากหยิบยกเรื่องอื่นมาหารือจะทำให้ญัตติที่พิจารณากันอยู่ตกไป พร้อมกล่าวขอโทษต่อที่ประชุมในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และพร้อมจะรับผิดชอบ โดยจะส่งมอบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้กับสมาชิกทุกคนได้รับทราบ ขณะที่ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ต่างทักท้วงว่า นายสมศักดิ์ ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง
ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคพลังประชาชน เห็นว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นไปโดยไม่เจตนา ดังนั้นทางออกเพื่อไม่ให้เป็นประเด็นทางการเมือง จึงควรขอพระราชทานอภัยโทษต่อพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งบรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด สุดท้ายนายสมศักดิ์ ได้กล่าวขอโทษกับที่ประชุมอีกครั้งด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ด้านนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ยอมรับว่า มีส่วนในการตัดสินใจให้นายชัย ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพราะกังวลว่า หากหยิบยกเรื่องอื่นมาหารือจะทำให้ญัตติที่พิจารณากันอยู่ตกไป พร้อมกล่าวขอโทษต่อที่ประชุมในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และพร้อมจะรับผิดชอบ โดยจะส่งมอบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้กับสมาชิกทุกคนได้รับทราบ ขณะที่ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ต่างทักท้วงว่า นายสมศักดิ์ ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง
ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคพลังประชาชน เห็นว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นไปโดยไม่เจตนา ดังนั้นทางออกเพื่อไม่ให้เป็นประเด็นทางการเมือง จึงควรขอพระราชทานอภัยโทษต่อพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งบรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด สุดท้ายนายสมศักดิ์ ได้กล่าวขอโทษกับที่ประชุมอีกครั้งด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ