นายรังสรรค์ คุ้มกัน ถูกตำรวจปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็กเยาวชนและสตรี (ปดส.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานการปราบปรามผู้เป็นภัยต่อคนงาน กระทรวงแรงงาน จับกุมได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรรณภูมิ หลังมีพฤติกรรมหลอกลวงแรงงานไทยไปทำงานที่ประเทศโอมาน อ้างเปิดบริษัทชื่อ วินอินเตอร์เนชั่นแนล แมนทาวเวอร์ ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และประมูลงานกับบริษัทต่าง ๆ ในประเทศโอมาน ตั้งแต่ปี 2545 เมื่อได้โควตาอัตราแรงงาน ก็จะหลอกลวงคนไทยให้ไปทำงาน โดยเก็บค่านายหน้าตั้งแต่ 40,000-60,000 บาทต่อคน แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับไม่ได้ทำงานในตำแหน่งตามที่ตกลง รวมทั้งเงินเดือน และไม่มีการทำสัญญาและวีซ่าประเภททำงานให้ จนกลายเป็นบุคคลเดินทางเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย และแรงงานบางคนก็ไม่ได้เดินทางไปทำงาน
ขณะที่นายรังสรรค์ อ้างไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว แต่ยอมรับว่ามีการจ่ายเงินเดือนล่าช้า และไม่รู้ว่าตนเองถูกออกหมายจับ
พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผู้บังคับการ ปดส. เปิดเผยว่า แก๊งดังกล่าวทำกันเป็นขบวนการ และมีไม่ต่ำกว่า 3 คน ส่วนนายรังสรรค์ จะเดินทางเข้าประเทศโอมาน ในคราบนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ปี 2545 จนหนังสือเดินทางหมดอายุตั้งแต่กลางปี 2548 แต่ยังหลบซ่อนตัวอย่างผิดกฎหมาย และเชื่อว่าการเดินทางกลับประเทศไทยครั้งนี้ จะเข้ามาทำหนังสือเดินทางและต่อวีซ่า เบื้องต้นมีผู้เสียหายกว่า 100 ราย ที่ตกเป็นเหยื่อ มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท และถูกออกหมายจับถึง 6 คดี ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันจัดหางานเพื่อไปทำงานต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง และร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถส่งไปฝึกงานต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงดังว่านั้น ได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง มีโทษจำคุก 3-10 ปี หรือปรับ 60,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่นายรังสรรค์ อ้างไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว แต่ยอมรับว่ามีการจ่ายเงินเดือนล่าช้า และไม่รู้ว่าตนเองถูกออกหมายจับ
พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผู้บังคับการ ปดส. เปิดเผยว่า แก๊งดังกล่าวทำกันเป็นขบวนการ และมีไม่ต่ำกว่า 3 คน ส่วนนายรังสรรค์ จะเดินทางเข้าประเทศโอมาน ในคราบนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ปี 2545 จนหนังสือเดินทางหมดอายุตั้งแต่กลางปี 2548 แต่ยังหลบซ่อนตัวอย่างผิดกฎหมาย และเชื่อว่าการเดินทางกลับประเทศไทยครั้งนี้ จะเข้ามาทำหนังสือเดินทางและต่อวีซ่า เบื้องต้นมีผู้เสียหายกว่า 100 ราย ที่ตกเป็นเหยื่อ มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท และถูกออกหมายจับถึง 6 คดี ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันจัดหางานเพื่อไปทำงานต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง และร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถส่งไปฝึกงานต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงดังว่านั้น ได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง มีโทษจำคุก 3-10 ปี หรือปรับ 60,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ