สโรชา- กลับเข้าสู่ยามเฝ้าแผ่นดินค่ะ เมื่อสักครู่นี้ทิ้งท้ายกันอาจารย์บอกว่าอาจารย์จะต่อจิ๊กซอว์ให้ฟัง
ปานเทพ- ต่อจิ๊กซอว์ให้ฟัง
สโรชา- ว่าภาพทั้งหมดมันเป็นอย่างไร
ปานเทพ- ครับ, คุณประสงค์ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ พูดตอนที่เราเปิดเทปให้ดูว่า เหมือนกับว่าตอนนี้มันเป็นเรื่องของระบอบการปกครองในประเทศที่กำลังเผชิญหน้ากันอยู่ ถ้าเป็นแค่ น.ต.ประสงค์ คนเดียวก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ถ้ามีคนหลายๆ คนคิดพร้อมๆ กัน ผมว่าน่าคิด มีบทความของท่าน ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- นะครับ, ที่จะลง ตอนนี้ขึ้นเว็บไซต์แล้วนะครับ หัวข้อเรื่องอะไรรู้ไหมครับ Republic of Thailand
สโรชา- Republic of Thailand
ปานเทพ- ครับ, แปลว่าอะไรครับคุณแอ้ม
สโรชา - สาธารณรัฐประเทศไทย
ปานเทพ- ซึ่งบทความนี้จะลงในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ อ.ชัยอนันต์ บอกว่า มีความไม่สบายใจอยู่ 2 ข่าวตอนนี้ ข่าวแรกคือ ข่าวนายอะไรคนหนึ่งที่ไม่ยืนเคารพในหลวงในโรงหนัง อีกข่าวหนึ่งคือข่าวที่มีชื่อทักษิณไปปรากฏอยู่ในธงชาติ ถึง 2 วาระ
สโรชา - ค่ะ
ปานเทพ- คือ การต้อนรับครั้งหนึ่ง และในการเชียร์ตอนฟุตบอลแข่งขันอีกครั้งหนึ่ง อ.ชัยอนันต์ บอกว่า ข่าวแรกนั้นไม่ใช่เรื่องของคนห่ามหรือคนบ้า แต่มีการทำเป็นขบวนการ ในกรณีของ อ.ชัยอนันต์ นะครับ
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- และขบวนการนี้มีเป็นเครือข่าย การไม่ยืนทำความเคารพในโรงหนังเป็นเพียงส่วนหนึ่งของขบวนการนี้เท่านั้น
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- ขบวนการนี้คือ ขบวนการ Republic of Thailand ซึ่งมีอยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะแถบสแกนดิเนเวีย ที่ฟินแลนด์ก็มี website ของ Republic of Thailand ด้วย ส่วนในประเทศไทยมีอยู่หลายแห่งคือ ในมหาวิทยาลัยบางแห่งมีอาจารย์ที่มีความเห็นว่าประเทศไทยไม่จำเป็นจะต้องมีสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งที่เป็นฝ่ายซ้ายเก่า ทำหนังสือและใบปลิว ตลอดจนพูดคุยกับชาวบ้านในทำนองหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อีกส่วนหนึ่งของขบวนการนี้ก็คือ การเคลื่อนไหวโจมตีประธานองคมนตรี ขบวนการ Republic of Thailand นี้ ประสานกับกลุ่มที่เปิด website ในเมืองไทยหลายแห่ง และมีการออกวารสารด้วย
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- เมื่อมีการจับกุมผู้ไม่ยืนแสดงความเคารพ ขบวนการนี้ก็ได้ออกกระทู้ใน web และมีการทำเสื้อยืดแจก นะครับ จะเป็นการบังเอิญหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่กลุ่มผู้สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นสาธารณรัฐนี้ก็สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- นี่ความเห็นของ อ.ชัยอนันต์ นะครับ และกลุ่มที่ไปประท้วงหน้าบ้านสี่เสาฯ ก็ชัดเจนว่าเป็นกลุ่มสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ นอกจากนั้นเมื่อมีเหตุการณ์ในเนปาล ก็มีการนำเสนอข่าวต่างประเทศอย่างละเอียด โดยสรุปก็คือ ขณะนี้มีปรากฏการณ์ในสังคมไทยที่แตกต่างไปจากในอดีต ในอดีตนั้นแม้จะมีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ในเวลานี้มีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ 1. มีความคิด 2. มีการจัดตั้งองค์กร และเครือข่ายเพื่อเผยแพร่ความคิด 3. มีเงินทุนสนับสนุน 4. มีการใช้การสื่อสารผ่าน web และทางการจัดพิมพ์วารสารใบปลิว ตลอดจนหนังสือ 5. มีการส่งคนไปปลุกปั่นคนในชนบท และแท็กซี่ในกรุงเทพฯ นี่ตัวอย่างแล้วกันนะครับ
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- หาอ่านในวันจันทร์นะครับ
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- แต่ตอนทิ้งท้ายของท่าน อ.ชัยอนันต์ บอกว่า มีคนมากระซิบผมว่าอีก 20 ปี ประเทศไทยจะเป็นสาธารณรัฐแน่นอน
สโรชา- ไม่อยากฟังเลยคำนี้ บอกตรงๆ เรียนตามตรงว่า ฟังแล้วไม่ชอบ
ปานเทพ- ครับ, ทีนี้เมื่อท่าน อ.ชัยอนันต์ พูดอย่างนี้ ผมก็อยากจะพูดถึงหลังสือเล่มหนึ่ง
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- ที่ต้องพูดหนังสือเล่มนี้ ด้วยความจำเป็นจริงๆ ครับ เพราะผมเห็นเหตุความบังเอิญอยู่หลายประการ ที่มีความเชื่อมโยงกับหนังสือเล่มนี้
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- อยากจะบอกว่า เหตุการณ์ที่คุณโชติศักดิ์ดำเนินการอยู่ ที่มีป้าย มีผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เป็นภาษาอังกฤษ สิ่งที่เขารณรงค์อยู่หนึ่งในหัวข้อคืออะไรคุณแอ้ม
สโรชา- อะไรคะ
ปานเทพ- คือ การพยายามยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ใช่ไหมครับ
สโรชา- ใช่ค่ะ
ปานเทพ- ที่น่าสนใจคือว่า ถ้ากฎหมายฉบับนี้ยกเลิกก็แปลว่า การวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในประเทศไทย
สโรชา- อย่างแพร่หลาย อย่างเปิดเผย
ปานเทพ- อย่างไม่ต้องกลัวเกรงอะไร ผมไม่รู้ประเทศไทยจะยอมรับตรงนี้ได้อย่างไร หรือไม่ แต่สิ่งที่รณรงค์อยู่ในตอนนี้ ทั้งทางเว็บไซต์ ไม่ว่าประชาไท ที่มีบทความอย่างต่อเนื่อง คนให้กำลังใจ ไปยังเว็บไซต์ฟ้าเดียวกัน เป็นต้น ก็ปรากฏว่า มีคนเข้าไปในเว็บจนกระทั่งคนเข้ามากขึ้นกว่าเดิม แต่อยากจะบอกว่า นิตยสารฉบับหนึ่ง ซึ่งเป็นนิตยสารราย 3 เดือน ผมขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อนะครับ มีเนื้อหาที่สอดคล้องกันคุณแอ้ม ฉบันนี้เป็นฉบับวันที่ 1 ม.ค. - มี.ค. 2551 มีหลายคนบอกว่า มีเนื้อหาที่หมิ่นเหม่มาก หมิ่นเหม่เรื่องความไม่เหมาะสมต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- หลายคนคิดอย่างนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรณาธิการถูกดำเนินคดีอยู่ แล้วมีหนังสือบางเล่มต้องถูกยกออกจากแผง เพราะว่ามีลักษณะของความไม่สงบเรียบร้อยต่อเหตุการณ์บ้านเมืองในประเทศไทย โดยเฉพาะการพูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ และวางแผงทั่วไปนะคุณแอ้ม
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- วางแผงขายทั่วไปนะครับ นิตยสารเล่มดังกล่าว พอเริ่มเปิดหน้าที่ 1 ปกในเราจะเห็นกรอบด้านซ้าย ที่คุณแอ้มเมื่อวานเห็นแล้ว ว่าเป็นกลอนที่พูดถึง วิพากษ์วิจารณ์งานพระศพของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อย่างรุนแรง คุณแอ้ม
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- เราเห็นอย่างนี้นะครับ แล้วมีการเปรียบเทียบภาพเชิงสัญลักษณ์อะไรบางอย่าง เพื่อให้สังคมหรือคนอ่านได้คิดอะไรบางอย่างเกิดขึ้น จากนั้นก็มีความพยายามจัดตารางงบประมาณรายจ่ายประจำปีของราชสำนักไทย เปรียบเทียบกับราชวงศ์อังกฤษ โดยไม่สนใจว่า โครงการพระราชดำริในงบประมาณรายจ่ายนั้นทำอะไรไปบ้าง
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- แล้วยังมีบทสัมภาษณ์ของศาสตราจารย์คนหนึ่ง ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ในภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน เมดิสัน ในหัวข้อเรื่อง การคุยเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อสาธารณชน เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ แล้วก็มีการจัดสัมมนาหัวข้อ ตั้งแต่ต้นปีนะครับ หัวข้อเรื่อง พระมหากษัตริย์องค์ประกอบข้างเคียง กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และหนังสือ 1 เล่ม เนื้อหาส่วนใหญ่การสัมภาษณ์ ท่านนักวิชาการท่านนี้ พูดว่า ต้องวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ได้ แล้วก็ชื่นชม สนับสนุนงานเขียนที่หลายคนบอกว่า เป็นความไม่เหมาะสมในหนังสือ The King Neversmile และเห็นควรยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่าด้วยการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งบังเอิญสอดคล้องกับข้อเรียกร้องของคุณโชติศักดิ์ อ่อนสูง เลยคุณแอ้ม
สโรชา- ค่ะ, บังเอิ๊ญ บังเอิญ
ปานเทพ- บังเอิญนะครับ นักวิชาการท่านนี้ท่านได้วิพากษ์วิจารณ์ในการพูดถึงประเทศไทย บอกว่า คนไทยเขียนถึงพระมหากษัตริย์เหมือนปลาที่ไม่เคยรู้จักชีวิตแบบอื่น ที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในน้ำ และเห็นว่า ชีวิตท่ามกลางน้ำในอ่างนั้นวิเศษที่สุด คุณแอ้มครับ คุ้นๆ กับบทสัมภาษณ์ของใครคนหนึ่งที่ไปสัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวต่างประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ไหม
สโรชา - ค่ะ
ปานเทพ- จากนั้นมีการพูดถึงเรื่องวิชาการ ผมเห็นว่าเป็นวิชาการ เรื่อง คว่ำปฏิวัติโค่นคณะราษฎร์ การก่อตัวของระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งก็เป็นนักวิชาการคนหนึ่ง ค้นคว้ามาอย่างดีนะครับ แต่ว่าการนำเสนอเรื่องนี้เพราะอะไร ในบทบรรณาธิการเขียนว่า คณะราษฎรก่อการปฏิวัติเพื่อนำพาสยามไปสู่ระบอบใหม่ที่อำนาจสูงสุดของประเทศนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย แทนที่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ทว่าการสถาปนาระบอบใหม่ก็เต็มไปด้วยอุปสรรค แรงต้านสำคัญมาจากกษัตริย์และกลุ่มกษัตริย์นิยม นั่นเอง เขาใช้คำนี้นะครับ ผลจากการต่อสู้ขัดแย้งระหว่างฝ่ายปฏิวัติ 2475 และขบวนการต่อต้านปฏิวัติ ย่อมส่งมอบมรดกมายังปัจจุบันอย่างไม่ต้องสงสัย ฉะนั้นพึงตระหนักไว้เถิดว่าปัญหาความเน่าเฟะพิกลพิการของการเมืองไทยนั้นมิได้เป็นผลมาจากนักการเมืองเลวๆเพียงลำพัง หากแต่มีรากปัญหาทางประวัติศาสตร์ แฝงฝังอยู่ด้วยอย่างมีนัยสำคัญ ในหนังสือเล่มเดียวกันนะครับ ยังใช้พื้นที่อีก 2 เนื้อหา 2 หัวข้อใหญ่ๆ ที่มีเนื้อหาบทความเพื่อต่อต้านประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในเรื่องการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ผ่านบทความ เช่น หัวข้อเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยนักวิชาการท่านหนึ่ง และอีกหัวข้อหนึ่ง กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และการเซ็นเซอร์ตัวเอง โดยนักวิชาการอีกท่านหนึ่ง ทั้งหมดนี้มันบังเอิญหรือเปล่า เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวผ่านเว็บไซต์ ผ่านคุณโชติศักดิ์ ที่บอกว่าเป็นคนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ มีการรณรงค์ และประมวลในเหตุการณ์ทำนองเดียวกัน ที่สำคัญคือว่า เป็นนิตยสารตั้งแต่มกราคมถึงเดือนมีนาคม และการเคลื่อนช่วงนี้เกิดขึ้นเดือนเมษายน ในหัวข้อทำนองเดียวกัน
สโรชา- ถ้ามันเป็นความบังเอิญ คงเป็นความบังเอิญที่ร้ายกาจมาก
ปานเทพ- ทีนี้ที่สำคัญคือว่า หลานยคนก็มีความรู้สึกว่าแนวคิดในหนังสือเล่มนี้มันมีความเผยแพร่ไปในหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มที่เชื่อสมาทานตามหนังสือเล่มนี้ แนวคิดอย่างนี้มาหลายเดือนแล้วนะครับ เป็นปีแล้ว บางคนก็เป็นนักการเมือง แต่ฉกฉวยจากทางวิชาการเหล่านี้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของตัวเอง อันนี้ผมอยากจะฝากข้อคิดนะครับ ผมก็เลยอยากจะถามว่า หนังสือเล่มนี้บังเอิญมีนายทุนรุ่นใหม่ มีข้อสงสัยว่าสนับสนุนอยู่จริงหรือไม่ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มากเลยนะครับ
สโรชา- รูปแบบหนังสือไม่ได้เป็นกระดาษพิมพ์แล้วมาเย็บติดๆกัน ไม่ได้เป็นสิ่งที่เราเห็นแล้ว
ปานเทพ- ความหนาประมาณเป็นปึกๆอย่างนี้
สโรชา- เป็นกิจลักษณะเลย
ปานเทพ- มีเชิงอรรถ มีทางวิชาการสนับสนุนอย่างแน่นหนา
สโรชา- การตีพิมพ์อย่างดี
ปานเทพ- ทีนี้หนังสือเล่มนี้เอง ก็เป็นหนังสือเดิมทีเราก็ไปดูที่อยู่เขาว่าเขาอยู่ที่ไหน ก็ปรากฏว่าเหมือนกับเป็นรากฐานความคิด แล้วก็กระจายมาทั่ว แล้วก็มีบทความหลายบทความนี้กระจายอยู่ในเว็บไซต์ประชาไท และฟ้าเดียวกัน การสนับสนุนน่าสงสัยมาก เราก็เลยไปตรวจสอบพบว่าเดิมทีที่นี่อยู่ภายใต้ตู้ ปณ.156 ปณจ.ยานนาวา เขตสาทร กทม. 10120 โทรศัพท์ก็ตามนี้ เป็นตู้ ปณ. จริงๆแล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นของใคร เราก็เลยใช้วิธีโทรศัพท์ไป ก็พบว่าเป็นชื่อของบรรณาธิการ ปรากฏว่าไม่ใช่ครับ ปรากฏว่าอยู่เลขที่ 1026 ลุมพินีพาร์กวิลล์ ถ.พระราม 4 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ
สโรชา- คือที่ตั้งของโทรศัพท์นี้ ที่ปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มนี้ อยู่ที่พระราม 4
ปานเทพ- คุณแอ้ม หนังสือพิมพ์แค่ 4,000 เล่ม พิมพ์อย่างหนา วิชาการอย่างแน่นหนา ยังไปอยู่ที่หรูๆอีกคุณแอ้ม บังเอิญว่าโทรศัพท์นี้ผมเพิ่งยกหูไป เจ้าของเบอร์โทรศัพท์ ชื่อ คุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ
สโรชา- เอ้ะ นามสกุลดังนะคะ
ปานเทพ- ทีนี้ปรากฏว่า เป็นเบอร์สำนักงานที่ตั้งอยู่ในคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมืองย่านสวนลุมพินี ทั้งที่ตั้งและเบอร์โทรศัพท์ ก็เป็นของมารดาของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แล้วต่อมาก็มีการดำเนินคดี หนังสือเล่มนี้ล่อแหลมมาก มีการฟ้องร้องต่อบรรณาธิการ มีการกล่าวหาบรรณาธิการ ก็ปรากฏว่า มีการย้ายสถานที่ ไปที่แถวเจริญนคร บางลำพูล่าง คลองสาน ผมมีที่อยู่ทั้งหมดนะครับ และก็เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ตามที่ว่า มาเป็นเบอร์ของท่านบรรณาธิการ ทีนี้ก็ปรากฏว่า เราก็ต้องสงสัยซิครับว่า ทำไมบุคคลนี้เป็นใคร และทำอะไรอยู่
สโรชา- รวมอยู่กับกระบวนการอะไรหรือเปล่า
ปานเทพ- เวลาเราน้อยเหลือเกินครับท่านผู้ชม จะพยายามกระชับและกัน คุณธนาธร ซึ่งเป็นบุตรชายของคุณสมพร ว่ากันว่า มีความใกล้ชิดกับคนที่ทำหนังสือกลุ่มนี้มาก คุณธนาธร เคยให้สัมภาษณ์ว่า เคยเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เป็นรุ่นน้อง 1 ปี หลังคุณพานทองแท้ ชินวัตร แล้วก็ไปเรียนต่อที่มหวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยกัน คุณธนาธรเคยให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเพื่อนกับคุณพานทองแท้ สนิทกันมาก เป็นเพื่อเที่ยวเพื่อนกินเหล้ากันตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ คุณธนาธรขณะที่เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นนักกิจกรรมตัวยง เคยเป็นอุปนายก อมธ.ในปี 2542 ไปเรียนต่อโทที่อเมริกา ก็เคยไปเคลื่อนไหวเป็นเอ็นจีโอ ในหลายประเทศ รวมถึงที่อิสราเอลด้วย ชื่นชมในลัทธิมาร์กซิส และเคยเข้าร่วมกันอาจารย์ใจ อึ้งภากรณ์ เป็นทายาทในการเมือง ดำเนินธุรกิจของครอบครัวไทยซัมมิท เป็นผู้บริหารสูงด้วย ที่น่าสนใจพบว่าคุณธนาธร และคุณโชติศักดิ์ อ่อนสูง มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมากตามข่าวที่ปรากฏ และก็มีข่าวปรากฏว่า ก็มีคนไม่แน่ใจว่าการก่อตัว ในการรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ แหล่งเงินสนับสนุนของคนกลุ่มนั้นมาจากตรงไหนกันแน่ ก็ยังไม่มีใครแน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับคุณธนาธรหรือไม่ โดยเฉพาะการลงหนังสือพิมพ์อย่างต่อเนื่อง
สโรชา- โยงไปถึงตระกูลนี้อย่างไรคะ ก็คือที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่ปรากฏอยู่ในหนังสือนั้น โทรไปแล้วอยู่ที่สถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งตามทะเบียนแล้วเป็นของคุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ
ปานเทพ- ซึ่งก็เป็นพี่ พี่ของคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ หรือคุณธนาธร จะเรียกง่ายๆว่า เป็นอา หลานกัน กับคุณสุริยะ ทีนี้ผมอยากจะพูดอย่างนี้ว่า มีคนบางกลุ่มบอกว่าเขาไม่เอาทักษิณ และเขาต่อสู้ทางหลักวิชาการตามความเชื่อ บางคนก็บอกว่าไม่เอาทั้งรัฐประหาร ไม่เอาทั้งทักษิณ แต่ผมเพียงสงสัยว่า ในยามที่ไม่เอารัฐประหาร เข้าใจหรือเปล่าว่าถ้าไม่เอารัฐประหารคุณทักษิณจะกลับมา ในทำนองเดียวกัน รัฐธรรมนูญปี 50 เวลาเขาขยับกันแล้ว กลุ่มนี้เขาจะต่อต้านเพื่อให้ดึงปี 40 มา เพราะว่ามาจาก ส.ส.ร. วันดีคืนดีลงประชามติแล้วก็จะรณรงค์เอาปี 40 ให้ได้ ทีนี้อยากจะบอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ผมอยากจะพูดอย่างนี้ว่า ใครก็ตามที่มีความคิดว่าจะนำเสนอตามหลักวิชาการ ด้วยเหตุผลใดๆ ก็แล้วแต่ ต้องเข้าใจว่า สถานการณ์ตอนนี้เป็นสถานการณ์ที่ล่อแหลมมาก
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- และต้องเข้าใจว่า ต้องคิดว่า ในช่วงเวลานี้ ในรัชกาลนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงงานหนักมากตลอดพระชนมายุของพระองค์ท่าน และโครงการพระราชดำริมากมาย สร้างประโยชน์คุณูปการมากมายให้กับประชาชนชาวไทย ถามว่าความคิดเหล่านี้ที่บอกว่าเป็นความคิดบริสุทธิ์ ทำไปแบบนี้แล้วเกิดประโยชน์อะไร และเกิดประโยชน์กับใคร แล้วอยากจะบอกว่า สิ่งที่เรานำเสนอเป็นการนำเสนอในฐานะคนที่เป็นข่าว บอกเล่าถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม ไม่ใช่การปรุงแต่งนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการรายงานในเรื่องของคุณโชติศักดิ์ การรณรงค์ในเว็บ สิ่งที่เกิดขึ้นตามสื่อ แน่นอนว่า สำหรับเราแล้ว เหตุการณ์เหล่านี้ถือเป็นเหตุการณ์ข่าวใหญ่ ที่คนข่าวจะเพิกเฉยไม่ได้
สโรชา- ใช่ค่ะ
ปานเทพ- ไม่รายงานให้สัมคมไม่รับรู้ก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นแล้ว บทความทางวิชาการของกลุ่มที่เขาบอกเป็นนักวิชาการแล้วไม่เลือกทักษิณ บัดนี้ได้ถูกนำไปใช้กับคนหลายกลุ่มแล้ว ในความคิดคล้ายคลึงกัน
สโรชา- คือได้นำไปใช้เป็นเครื่องมือของคนบางกลุ่มแล้ว
ปานเทพ- ครับ, แล้วก็ด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ หรือจะเป็นแนวร่วมหรือไม่ ในใจไม่มีใครรู้หรอก แต่ว่า ณ ช่วงเวลานี้เป็นสถานการณ์ที่เราต้องบอกว่า มันไม่ปกติจริงๆ นะคุณแอ้ม
สโรชา- ใช่ค่ะ
ปานเทพ- หมดเวลาแล้วมั้งครับ
สโรชา- หมดเวลาแล้วค่ะ แต่ว่ามาจบด้วยเรื่องนี้แหม คงจะไปหยุดยาวกันอย่างไม่ค่อยจะสบายอกสบายใจเท่าไหร่ กลับมาเป็นยามเฝ้าแผ่นดินรายวันกันใหม่ในสัปดาห์หน้าค่ะคุณผู้ชม สำหรับวันนี้เราทั้งสองคนลาคุณผู้ชมไปเพียงเท่านี้ค่ะ สวัสดีค่ะ / สวัสดีครับ
ปานเทพ- ต่อจิ๊กซอว์ให้ฟัง
สโรชา- ว่าภาพทั้งหมดมันเป็นอย่างไร
ปานเทพ- ครับ, คุณประสงค์ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ พูดตอนที่เราเปิดเทปให้ดูว่า เหมือนกับว่าตอนนี้มันเป็นเรื่องของระบอบการปกครองในประเทศที่กำลังเผชิญหน้ากันอยู่ ถ้าเป็นแค่ น.ต.ประสงค์ คนเดียวก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ถ้ามีคนหลายๆ คนคิดพร้อมๆ กัน ผมว่าน่าคิด มีบทความของท่าน ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- นะครับ, ที่จะลง ตอนนี้ขึ้นเว็บไซต์แล้วนะครับ หัวข้อเรื่องอะไรรู้ไหมครับ Republic of Thailand
สโรชา- Republic of Thailand
ปานเทพ- ครับ, แปลว่าอะไรครับคุณแอ้ม
สโรชา - สาธารณรัฐประเทศไทย
ปานเทพ- ซึ่งบทความนี้จะลงในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ อ.ชัยอนันต์ บอกว่า มีความไม่สบายใจอยู่ 2 ข่าวตอนนี้ ข่าวแรกคือ ข่าวนายอะไรคนหนึ่งที่ไม่ยืนเคารพในหลวงในโรงหนัง อีกข่าวหนึ่งคือข่าวที่มีชื่อทักษิณไปปรากฏอยู่ในธงชาติ ถึง 2 วาระ
สโรชา - ค่ะ
ปานเทพ- คือ การต้อนรับครั้งหนึ่ง และในการเชียร์ตอนฟุตบอลแข่งขันอีกครั้งหนึ่ง อ.ชัยอนันต์ บอกว่า ข่าวแรกนั้นไม่ใช่เรื่องของคนห่ามหรือคนบ้า แต่มีการทำเป็นขบวนการ ในกรณีของ อ.ชัยอนันต์ นะครับ
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- และขบวนการนี้มีเป็นเครือข่าย การไม่ยืนทำความเคารพในโรงหนังเป็นเพียงส่วนหนึ่งของขบวนการนี้เท่านั้น
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- ขบวนการนี้คือ ขบวนการ Republic of Thailand ซึ่งมีอยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะแถบสแกนดิเนเวีย ที่ฟินแลนด์ก็มี website ของ Republic of Thailand ด้วย ส่วนในประเทศไทยมีอยู่หลายแห่งคือ ในมหาวิทยาลัยบางแห่งมีอาจารย์ที่มีความเห็นว่าประเทศไทยไม่จำเป็นจะต้องมีสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งที่เป็นฝ่ายซ้ายเก่า ทำหนังสือและใบปลิว ตลอดจนพูดคุยกับชาวบ้านในทำนองหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อีกส่วนหนึ่งของขบวนการนี้ก็คือ การเคลื่อนไหวโจมตีประธานองคมนตรี ขบวนการ Republic of Thailand นี้ ประสานกับกลุ่มที่เปิด website ในเมืองไทยหลายแห่ง และมีการออกวารสารด้วย
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- เมื่อมีการจับกุมผู้ไม่ยืนแสดงความเคารพ ขบวนการนี้ก็ได้ออกกระทู้ใน web และมีการทำเสื้อยืดแจก นะครับ จะเป็นการบังเอิญหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่กลุ่มผู้สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นสาธารณรัฐนี้ก็สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- นี่ความเห็นของ อ.ชัยอนันต์ นะครับ และกลุ่มที่ไปประท้วงหน้าบ้านสี่เสาฯ ก็ชัดเจนว่าเป็นกลุ่มสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ นอกจากนั้นเมื่อมีเหตุการณ์ในเนปาล ก็มีการนำเสนอข่าวต่างประเทศอย่างละเอียด โดยสรุปก็คือ ขณะนี้มีปรากฏการณ์ในสังคมไทยที่แตกต่างไปจากในอดีต ในอดีตนั้นแม้จะมีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ในเวลานี้มีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ 1. มีความคิด 2. มีการจัดตั้งองค์กร และเครือข่ายเพื่อเผยแพร่ความคิด 3. มีเงินทุนสนับสนุน 4. มีการใช้การสื่อสารผ่าน web และทางการจัดพิมพ์วารสารใบปลิว ตลอดจนหนังสือ 5. มีการส่งคนไปปลุกปั่นคนในชนบท และแท็กซี่ในกรุงเทพฯ นี่ตัวอย่างแล้วกันนะครับ
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- หาอ่านในวันจันทร์นะครับ
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- แต่ตอนทิ้งท้ายของท่าน อ.ชัยอนันต์ บอกว่า มีคนมากระซิบผมว่าอีก 20 ปี ประเทศไทยจะเป็นสาธารณรัฐแน่นอน
สโรชา- ไม่อยากฟังเลยคำนี้ บอกตรงๆ เรียนตามตรงว่า ฟังแล้วไม่ชอบ
ปานเทพ- ครับ, ทีนี้เมื่อท่าน อ.ชัยอนันต์ พูดอย่างนี้ ผมก็อยากจะพูดถึงหลังสือเล่มหนึ่ง
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- ที่ต้องพูดหนังสือเล่มนี้ ด้วยความจำเป็นจริงๆ ครับ เพราะผมเห็นเหตุความบังเอิญอยู่หลายประการ ที่มีความเชื่อมโยงกับหนังสือเล่มนี้
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- อยากจะบอกว่า เหตุการณ์ที่คุณโชติศักดิ์ดำเนินการอยู่ ที่มีป้าย มีผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เป็นภาษาอังกฤษ สิ่งที่เขารณรงค์อยู่หนึ่งในหัวข้อคืออะไรคุณแอ้ม
สโรชา- อะไรคะ
ปานเทพ- คือ การพยายามยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ใช่ไหมครับ
สโรชา- ใช่ค่ะ
ปานเทพ- ที่น่าสนใจคือว่า ถ้ากฎหมายฉบับนี้ยกเลิกก็แปลว่า การวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในประเทศไทย
สโรชา- อย่างแพร่หลาย อย่างเปิดเผย
ปานเทพ- อย่างไม่ต้องกลัวเกรงอะไร ผมไม่รู้ประเทศไทยจะยอมรับตรงนี้ได้อย่างไร หรือไม่ แต่สิ่งที่รณรงค์อยู่ในตอนนี้ ทั้งทางเว็บไซต์ ไม่ว่าประชาไท ที่มีบทความอย่างต่อเนื่อง คนให้กำลังใจ ไปยังเว็บไซต์ฟ้าเดียวกัน เป็นต้น ก็ปรากฏว่า มีคนเข้าไปในเว็บจนกระทั่งคนเข้ามากขึ้นกว่าเดิม แต่อยากจะบอกว่า นิตยสารฉบับหนึ่ง ซึ่งเป็นนิตยสารราย 3 เดือน ผมขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อนะครับ มีเนื้อหาที่สอดคล้องกันคุณแอ้ม ฉบันนี้เป็นฉบับวันที่ 1 ม.ค. - มี.ค. 2551 มีหลายคนบอกว่า มีเนื้อหาที่หมิ่นเหม่มาก หมิ่นเหม่เรื่องความไม่เหมาะสมต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- หลายคนคิดอย่างนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรณาธิการถูกดำเนินคดีอยู่ แล้วมีหนังสือบางเล่มต้องถูกยกออกจากแผง เพราะว่ามีลักษณะของความไม่สงบเรียบร้อยต่อเหตุการณ์บ้านเมืองในประเทศไทย โดยเฉพาะการพูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ และวางแผงทั่วไปนะคุณแอ้ม
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- วางแผงขายทั่วไปนะครับ นิตยสารเล่มดังกล่าว พอเริ่มเปิดหน้าที่ 1 ปกในเราจะเห็นกรอบด้านซ้าย ที่คุณแอ้มเมื่อวานเห็นแล้ว ว่าเป็นกลอนที่พูดถึง วิพากษ์วิจารณ์งานพระศพของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อย่างรุนแรง คุณแอ้ม
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- เราเห็นอย่างนี้นะครับ แล้วมีการเปรียบเทียบภาพเชิงสัญลักษณ์อะไรบางอย่าง เพื่อให้สังคมหรือคนอ่านได้คิดอะไรบางอย่างเกิดขึ้น จากนั้นก็มีความพยายามจัดตารางงบประมาณรายจ่ายประจำปีของราชสำนักไทย เปรียบเทียบกับราชวงศ์อังกฤษ โดยไม่สนใจว่า โครงการพระราชดำริในงบประมาณรายจ่ายนั้นทำอะไรไปบ้าง
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- แล้วยังมีบทสัมภาษณ์ของศาสตราจารย์คนหนึ่ง ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ในภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน เมดิสัน ในหัวข้อเรื่อง การคุยเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อสาธารณชน เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ แล้วก็มีการจัดสัมมนาหัวข้อ ตั้งแต่ต้นปีนะครับ หัวข้อเรื่อง พระมหากษัตริย์องค์ประกอบข้างเคียง กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และหนังสือ 1 เล่ม เนื้อหาส่วนใหญ่การสัมภาษณ์ ท่านนักวิชาการท่านนี้ พูดว่า ต้องวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ได้ แล้วก็ชื่นชม สนับสนุนงานเขียนที่หลายคนบอกว่า เป็นความไม่เหมาะสมในหนังสือ The King Neversmile และเห็นควรยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่าด้วยการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งบังเอิญสอดคล้องกับข้อเรียกร้องของคุณโชติศักดิ์ อ่อนสูง เลยคุณแอ้ม
สโรชา- ค่ะ, บังเอิ๊ญ บังเอิญ
ปานเทพ- บังเอิญนะครับ นักวิชาการท่านนี้ท่านได้วิพากษ์วิจารณ์ในการพูดถึงประเทศไทย บอกว่า คนไทยเขียนถึงพระมหากษัตริย์เหมือนปลาที่ไม่เคยรู้จักชีวิตแบบอื่น ที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในน้ำ และเห็นว่า ชีวิตท่ามกลางน้ำในอ่างนั้นวิเศษที่สุด คุณแอ้มครับ คุ้นๆ กับบทสัมภาษณ์ของใครคนหนึ่งที่ไปสัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวต่างประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ไหม
สโรชา - ค่ะ
ปานเทพ- จากนั้นมีการพูดถึงเรื่องวิชาการ ผมเห็นว่าเป็นวิชาการ เรื่อง คว่ำปฏิวัติโค่นคณะราษฎร์ การก่อตัวของระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งก็เป็นนักวิชาการคนหนึ่ง ค้นคว้ามาอย่างดีนะครับ แต่ว่าการนำเสนอเรื่องนี้เพราะอะไร ในบทบรรณาธิการเขียนว่า คณะราษฎรก่อการปฏิวัติเพื่อนำพาสยามไปสู่ระบอบใหม่ที่อำนาจสูงสุดของประเทศนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย แทนที่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ทว่าการสถาปนาระบอบใหม่ก็เต็มไปด้วยอุปสรรค แรงต้านสำคัญมาจากกษัตริย์และกลุ่มกษัตริย์นิยม นั่นเอง เขาใช้คำนี้นะครับ ผลจากการต่อสู้ขัดแย้งระหว่างฝ่ายปฏิวัติ 2475 และขบวนการต่อต้านปฏิวัติ ย่อมส่งมอบมรดกมายังปัจจุบันอย่างไม่ต้องสงสัย ฉะนั้นพึงตระหนักไว้เถิดว่าปัญหาความเน่าเฟะพิกลพิการของการเมืองไทยนั้นมิได้เป็นผลมาจากนักการเมืองเลวๆเพียงลำพัง หากแต่มีรากปัญหาทางประวัติศาสตร์ แฝงฝังอยู่ด้วยอย่างมีนัยสำคัญ ในหนังสือเล่มเดียวกันนะครับ ยังใช้พื้นที่อีก 2 เนื้อหา 2 หัวข้อใหญ่ๆ ที่มีเนื้อหาบทความเพื่อต่อต้านประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในเรื่องการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ผ่านบทความ เช่น หัวข้อเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยนักวิชาการท่านหนึ่ง และอีกหัวข้อหนึ่ง กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และการเซ็นเซอร์ตัวเอง โดยนักวิชาการอีกท่านหนึ่ง ทั้งหมดนี้มันบังเอิญหรือเปล่า เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวผ่านเว็บไซต์ ผ่านคุณโชติศักดิ์ ที่บอกว่าเป็นคนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ มีการรณรงค์ และประมวลในเหตุการณ์ทำนองเดียวกัน ที่สำคัญคือว่า เป็นนิตยสารตั้งแต่มกราคมถึงเดือนมีนาคม และการเคลื่อนช่วงนี้เกิดขึ้นเดือนเมษายน ในหัวข้อทำนองเดียวกัน
สโรชา- ถ้ามันเป็นความบังเอิญ คงเป็นความบังเอิญที่ร้ายกาจมาก
ปานเทพ- ทีนี้ที่สำคัญคือว่า หลานยคนก็มีความรู้สึกว่าแนวคิดในหนังสือเล่มนี้มันมีความเผยแพร่ไปในหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มที่เชื่อสมาทานตามหนังสือเล่มนี้ แนวคิดอย่างนี้มาหลายเดือนแล้วนะครับ เป็นปีแล้ว บางคนก็เป็นนักการเมือง แต่ฉกฉวยจากทางวิชาการเหล่านี้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของตัวเอง อันนี้ผมอยากจะฝากข้อคิดนะครับ ผมก็เลยอยากจะถามว่า หนังสือเล่มนี้บังเอิญมีนายทุนรุ่นใหม่ มีข้อสงสัยว่าสนับสนุนอยู่จริงหรือไม่ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มากเลยนะครับ
สโรชา- รูปแบบหนังสือไม่ได้เป็นกระดาษพิมพ์แล้วมาเย็บติดๆกัน ไม่ได้เป็นสิ่งที่เราเห็นแล้ว
ปานเทพ- ความหนาประมาณเป็นปึกๆอย่างนี้
สโรชา- เป็นกิจลักษณะเลย
ปานเทพ- มีเชิงอรรถ มีทางวิชาการสนับสนุนอย่างแน่นหนา
สโรชา- การตีพิมพ์อย่างดี
ปานเทพ- ทีนี้หนังสือเล่มนี้เอง ก็เป็นหนังสือเดิมทีเราก็ไปดูที่อยู่เขาว่าเขาอยู่ที่ไหน ก็ปรากฏว่าเหมือนกับเป็นรากฐานความคิด แล้วก็กระจายมาทั่ว แล้วก็มีบทความหลายบทความนี้กระจายอยู่ในเว็บไซต์ประชาไท และฟ้าเดียวกัน การสนับสนุนน่าสงสัยมาก เราก็เลยไปตรวจสอบพบว่าเดิมทีที่นี่อยู่ภายใต้ตู้ ปณ.156 ปณจ.ยานนาวา เขตสาทร กทม. 10120 โทรศัพท์ก็ตามนี้ เป็นตู้ ปณ. จริงๆแล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นของใคร เราก็เลยใช้วิธีโทรศัพท์ไป ก็พบว่าเป็นชื่อของบรรณาธิการ ปรากฏว่าไม่ใช่ครับ ปรากฏว่าอยู่เลขที่ 1026 ลุมพินีพาร์กวิลล์ ถ.พระราม 4 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ
สโรชา- คือที่ตั้งของโทรศัพท์นี้ ที่ปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มนี้ อยู่ที่พระราม 4
ปานเทพ- คุณแอ้ม หนังสือพิมพ์แค่ 4,000 เล่ม พิมพ์อย่างหนา วิชาการอย่างแน่นหนา ยังไปอยู่ที่หรูๆอีกคุณแอ้ม บังเอิญว่าโทรศัพท์นี้ผมเพิ่งยกหูไป เจ้าของเบอร์โทรศัพท์ ชื่อ คุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ
สโรชา- เอ้ะ นามสกุลดังนะคะ
ปานเทพ- ทีนี้ปรากฏว่า เป็นเบอร์สำนักงานที่ตั้งอยู่ในคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมืองย่านสวนลุมพินี ทั้งที่ตั้งและเบอร์โทรศัพท์ ก็เป็นของมารดาของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แล้วต่อมาก็มีการดำเนินคดี หนังสือเล่มนี้ล่อแหลมมาก มีการฟ้องร้องต่อบรรณาธิการ มีการกล่าวหาบรรณาธิการ ก็ปรากฏว่า มีการย้ายสถานที่ ไปที่แถวเจริญนคร บางลำพูล่าง คลองสาน ผมมีที่อยู่ทั้งหมดนะครับ และก็เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ตามที่ว่า มาเป็นเบอร์ของท่านบรรณาธิการ ทีนี้ก็ปรากฏว่า เราก็ต้องสงสัยซิครับว่า ทำไมบุคคลนี้เป็นใคร และทำอะไรอยู่
สโรชา- รวมอยู่กับกระบวนการอะไรหรือเปล่า
ปานเทพ- เวลาเราน้อยเหลือเกินครับท่านผู้ชม จะพยายามกระชับและกัน คุณธนาธร ซึ่งเป็นบุตรชายของคุณสมพร ว่ากันว่า มีความใกล้ชิดกับคนที่ทำหนังสือกลุ่มนี้มาก คุณธนาธร เคยให้สัมภาษณ์ว่า เคยเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เป็นรุ่นน้อง 1 ปี หลังคุณพานทองแท้ ชินวัตร แล้วก็ไปเรียนต่อที่มหวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วยกัน คุณธนาธรเคยให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเพื่อนกับคุณพานทองแท้ สนิทกันมาก เป็นเพื่อเที่ยวเพื่อนกินเหล้ากันตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ คุณธนาธรขณะที่เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นนักกิจกรรมตัวยง เคยเป็นอุปนายก อมธ.ในปี 2542 ไปเรียนต่อโทที่อเมริกา ก็เคยไปเคลื่อนไหวเป็นเอ็นจีโอ ในหลายประเทศ รวมถึงที่อิสราเอลด้วย ชื่นชมในลัทธิมาร์กซิส และเคยเข้าร่วมกันอาจารย์ใจ อึ้งภากรณ์ เป็นทายาทในการเมือง ดำเนินธุรกิจของครอบครัวไทยซัมมิท เป็นผู้บริหารสูงด้วย ที่น่าสนใจพบว่าคุณธนาธร และคุณโชติศักดิ์ อ่อนสูง มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมากตามข่าวที่ปรากฏ และก็มีข่าวปรากฏว่า ก็มีคนไม่แน่ใจว่าการก่อตัว ในการรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ แหล่งเงินสนับสนุนของคนกลุ่มนั้นมาจากตรงไหนกันแน่ ก็ยังไม่มีใครแน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับคุณธนาธรหรือไม่ โดยเฉพาะการลงหนังสือพิมพ์อย่างต่อเนื่อง
สโรชา- โยงไปถึงตระกูลนี้อย่างไรคะ ก็คือที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่ปรากฏอยู่ในหนังสือนั้น โทรไปแล้วอยู่ที่สถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งตามทะเบียนแล้วเป็นของคุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ
ปานเทพ- ซึ่งก็เป็นพี่ พี่ของคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ หรือคุณธนาธร จะเรียกง่ายๆว่า เป็นอา หลานกัน กับคุณสุริยะ ทีนี้ผมอยากจะพูดอย่างนี้ว่า มีคนบางกลุ่มบอกว่าเขาไม่เอาทักษิณ และเขาต่อสู้ทางหลักวิชาการตามความเชื่อ บางคนก็บอกว่าไม่เอาทั้งรัฐประหาร ไม่เอาทั้งทักษิณ แต่ผมเพียงสงสัยว่า ในยามที่ไม่เอารัฐประหาร เข้าใจหรือเปล่าว่าถ้าไม่เอารัฐประหารคุณทักษิณจะกลับมา ในทำนองเดียวกัน รัฐธรรมนูญปี 50 เวลาเขาขยับกันแล้ว กลุ่มนี้เขาจะต่อต้านเพื่อให้ดึงปี 40 มา เพราะว่ามาจาก ส.ส.ร. วันดีคืนดีลงประชามติแล้วก็จะรณรงค์เอาปี 40 ให้ได้ ทีนี้อยากจะบอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ผมอยากจะพูดอย่างนี้ว่า ใครก็ตามที่มีความคิดว่าจะนำเสนอตามหลักวิชาการ ด้วยเหตุผลใดๆ ก็แล้วแต่ ต้องเข้าใจว่า สถานการณ์ตอนนี้เป็นสถานการณ์ที่ล่อแหลมมาก
สโรชา- ค่ะ
ปานเทพ- และต้องเข้าใจว่า ต้องคิดว่า ในช่วงเวลานี้ ในรัชกาลนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงงานหนักมากตลอดพระชนมายุของพระองค์ท่าน และโครงการพระราชดำริมากมาย สร้างประโยชน์คุณูปการมากมายให้กับประชาชนชาวไทย ถามว่าความคิดเหล่านี้ที่บอกว่าเป็นความคิดบริสุทธิ์ ทำไปแบบนี้แล้วเกิดประโยชน์อะไร และเกิดประโยชน์กับใคร แล้วอยากจะบอกว่า สิ่งที่เรานำเสนอเป็นการนำเสนอในฐานะคนที่เป็นข่าว บอกเล่าถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม ไม่ใช่การปรุงแต่งนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการรายงานในเรื่องของคุณโชติศักดิ์ การรณรงค์ในเว็บ สิ่งที่เกิดขึ้นตามสื่อ แน่นอนว่า สำหรับเราแล้ว เหตุการณ์เหล่านี้ถือเป็นเหตุการณ์ข่าวใหญ่ ที่คนข่าวจะเพิกเฉยไม่ได้
สโรชา- ใช่ค่ะ
ปานเทพ- ไม่รายงานให้สัมคมไม่รับรู้ก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นแล้ว บทความทางวิชาการของกลุ่มที่เขาบอกเป็นนักวิชาการแล้วไม่เลือกทักษิณ บัดนี้ได้ถูกนำไปใช้กับคนหลายกลุ่มแล้ว ในความคิดคล้ายคลึงกัน
สโรชา- คือได้นำไปใช้เป็นเครื่องมือของคนบางกลุ่มแล้ว
ปานเทพ- ครับ, แล้วก็ด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ หรือจะเป็นแนวร่วมหรือไม่ ในใจไม่มีใครรู้หรอก แต่ว่า ณ ช่วงเวลานี้เป็นสถานการณ์ที่เราต้องบอกว่า มันไม่ปกติจริงๆ นะคุณแอ้ม
สโรชา- ใช่ค่ะ
ปานเทพ- หมดเวลาแล้วมั้งครับ
สโรชา- หมดเวลาแล้วค่ะ แต่ว่ามาจบด้วยเรื่องนี้แหม คงจะไปหยุดยาวกันอย่างไม่ค่อยจะสบายอกสบายใจเท่าไหร่ กลับมาเป็นยามเฝ้าแผ่นดินรายวันกันใหม่ในสัปดาห์หน้าค่ะคุณผู้ชม สำหรับวันนี้เราทั้งสองคนลาคุณผู้ชมไปเพียงเท่านี้ค่ะ สวัสดีค่ะ / สวัสดีครับ