นางกรรณิการ์ บรรเทิงจิตร สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.50) เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 22 เมษายนนี้ สมาชิกจะร่วมประชุมหารือเพื่อกำหนดท่าทีการคัดค้านการเสนอแก้รัฐธรรมนูญปี 2550 ตามกรอบของพรรคพลังประชาชน ซึ่งเบื้องต้นประเมินไว้แล้วเห็นว่า ประเด็นของการนำเสนอแก้ไขเป็นไปเพื่อตัวเอง โดยเฉพาะการยกเลิกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อกำหนดให้มีการสรรหาใหม่ภายใน 180 วัน ถือเป็นการเตรียมล้มองค์กรอิสระซึ่งมีหน้าที่ในการตรวจสอบทุกฝ่าย และถือเป็นหัวใจสำคัญของรัฐธรรมนูญไม่เพียงฉบับปี 2550 แต่ยังรวมไปถึงรัฐธรรมนูญปี 2540 ด้วย
ด้านนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิกวุฒิสภาแบบสรรหา และในฐานะอดีต ส.ส.ร.ยอมรับว่า แม้จะเป็นสิทธิตามกฎหมายที่ ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน หรือรัฐบาลจะเสนอแก้รัฐธรรมนูญได้ แต่ตั้งข้อสังเกตถึงเหตุผลความเหมาะสมที่ผู้เสนอแก้ต้องการชี้แจงต่อสังคมให้ชัดเจน ทั้งนี้ยังแนะนำให้มีการเปิดเผยตัวร่างแก้ไขเพิ่มเติมที่ยกร่างขึ้น เพื่อชี้แจงประโยชน์ และเปรียบเทียบผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน
นอกจากนี้ ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามีส่วนร่วมในการแก้ไขเพื่อขจัดข้อครหาเกี่ยวกับส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งหากไม่ยึดหลักปฏิบัติเช่นนี้อาจนำมาซึ่งความวุ่นวาย เนื่องจากสังคมจับจ้องถึงการใช้อำนาจรัฐเกินขอบเขต
ด้านนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิกวุฒิสภาแบบสรรหา และในฐานะอดีต ส.ส.ร.ยอมรับว่า แม้จะเป็นสิทธิตามกฎหมายที่ ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน หรือรัฐบาลจะเสนอแก้รัฐธรรมนูญได้ แต่ตั้งข้อสังเกตถึงเหตุผลความเหมาะสมที่ผู้เสนอแก้ต้องการชี้แจงต่อสังคมให้ชัดเจน ทั้งนี้ยังแนะนำให้มีการเปิดเผยตัวร่างแก้ไขเพิ่มเติมที่ยกร่างขึ้น เพื่อชี้แจงประโยชน์ และเปรียบเทียบผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน
นอกจากนี้ ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามีส่วนร่วมในการแก้ไขเพื่อขจัดข้อครหาเกี่ยวกับส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งหากไม่ยึดหลักปฏิบัติเช่นนี้อาจนำมาซึ่งความวุ่นวาย เนื่องจากสังคมจับจ้องถึงการใช้อำนาจรัฐเกินขอบเขต