นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคพลังประชาชน แถลงผลสรุปร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งในบทเฉพาะกาล จะให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มาจากการสรรหา อยู่ครบวาระ 3 ปี ส่วน ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้ง ให้อยู่ครบ 6 ปี จากนั้นเมื่อ ส.ว.สรรหา หมดวาระ ให้เลือกตั้งเข้ามาใหม่จนครบ 200 คน
สำหรับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่กำลังสรรหาในขณะนี้ ให้ดำเนินการสรรหาจนครบ 9 คน แต่เมื่อกฎหมายรัฐธรรมนูญแก้ไข ให้สรรหาเพิ่มจนครบ 15 คน ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต้องยกเลิก และสรรหาใหม่ภายใน 180 วัน โดยจะไม่ตัดสิทธิของ กกต.และ ป.ป.ช. ที่กำลังทำหน้าที่ในขณะนี้ เข้าสู่การสรรหา
นอกจากนี้ นายชูศักดิ์ ยืนยันด้วยว่า สาเหตุการยุบ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันนั้น ไม่ได้เป็นเพราะพรรคพลังประชาชนกลัวจะถูกตรวจสอบ แต่เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และเชื่อว่าร่างแก้ไขฯ ของพรรคจะได้รับความเห็นชอบจากพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเป็นร่างฯ ที่มีความเป็นกลาง และหากมีผู้ไม่เห็นด้วยก็ขอให้แก้ไขและแปรญัตติในชั้นกรรมาธิการวิสามัญ
ทั้งนี้ สำหรับขั้นตอนต่อไป คณะอนุกรรมการฯ จะไปยกร่างแก้ไขถ้อยคำให้สมบูรณ์ ก่อนเสนอพรรคร่วมรัฐบาลในวันอังคารที่ 22 เมษายนนี้ ซึ่งหากทุกพรรคเห็นด้วย ก็จะร่วมกันลงชื่อเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภา โดยยืนยันว่าจะไม่มีการหมกเม็ด หากร่างเสร็จจะมีการเปิดเผยต่อสาธารณชน
สำหรับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่กำลังสรรหาในขณะนี้ ให้ดำเนินการสรรหาจนครบ 9 คน แต่เมื่อกฎหมายรัฐธรรมนูญแก้ไข ให้สรรหาเพิ่มจนครบ 15 คน ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต้องยกเลิก และสรรหาใหม่ภายใน 180 วัน โดยจะไม่ตัดสิทธิของ กกต.และ ป.ป.ช. ที่กำลังทำหน้าที่ในขณะนี้ เข้าสู่การสรรหา
นอกจากนี้ นายชูศักดิ์ ยืนยันด้วยว่า สาเหตุการยุบ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันนั้น ไม่ได้เป็นเพราะพรรคพลังประชาชนกลัวจะถูกตรวจสอบ แต่เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และเชื่อว่าร่างแก้ไขฯ ของพรรคจะได้รับความเห็นชอบจากพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเป็นร่างฯ ที่มีความเป็นกลาง และหากมีผู้ไม่เห็นด้วยก็ขอให้แก้ไขและแปรญัตติในชั้นกรรมาธิการวิสามัญ
ทั้งนี้ สำหรับขั้นตอนต่อไป คณะอนุกรรมการฯ จะไปยกร่างแก้ไขถ้อยคำให้สมบูรณ์ ก่อนเสนอพรรคร่วมรัฐบาลในวันอังคารที่ 22 เมษายนนี้ ซึ่งหากทุกพรรคเห็นด้วย ก็จะร่วมกันลงชื่อเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภา โดยยืนยันว่าจะไม่มีการหมกเม็ด หากร่างเสร็จจะมีการเปิดเผยต่อสาธารณชน