วันนี้ (8 เม.ย.) นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวว่านายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีคำสั่งให้บริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล ตรึงราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน สายเฉลิมรัชมงคล ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้ จากเดิมที่ต้องขึ้นราคาในวันที่ 1 กรกฎาคม ตามที่กำหนดในสัญญาสัมปทานนั้น ขอชี้แจงว่า การนำเสนอข่าวมีการคลาดเคลื่อน กล่าวคือทางบีเอ็มซีแอลยินดีที่จะตรึงค่าโดยสารออกไปจนถึง 31 ธันวาคม ตามที่รัฐบาลขอความร่วมมือจริง แต่จะตรึงราคาให้เฉพาะผู้โดยสารที่โดยสารโดยใช้บัตรเติมเงินเท่านั้น ถือเป็นโปรโมชั่นให้กับผู้โดยสารที่เป็นลูกค้าประจำและเป็นผู้โดยสารส่วนใหญ่ ส่วนผู้โดยสารขาจรที่ใช้เหรียญโดยสาร จะต้องเสียค่าโดยสารตามอัตราใหม่ คืออัตรา 16-41 บาท จากเดิม 15-39 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้รับทราบในหลักการดังกล่าวแล้ว
นายประภัสร์ กล่าวต่อว่า การขึ้นราคาค่าโดยสารเป็นสาระสำคัญของสัญญาสัมปทาน หากสั่งห้ามไม่ให้ขึ้นราคา จะถือว่าผิดสัญญา อาจมีผลกระทบต่อสัญญาเงินกู้ที่บีเอ็มซีแอลมีกับธนาคารที่ผูกพันกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ทางธนาคารบอกยกเลิกเงินกู้ได้ อย่างไรก็ตามการตรึงค่าโดยสารให้กับผู้โดยสารที่ใช้บัตรเติมเงินนั้นสามารถกระทำได้ เพราะถือเป็นโปรโมชั่นของทางบริษัทที่ทำให้กับลูกค้าส่วนใหญ่ ไม่ผิดสัญญาสัมปทาน และรฟม.ไม่ต้องจ่ายชดเชยการเสียรายได้ดังกล่าว
นายประภัสร์ กล่าวต่อว่า การขึ้นราคาค่าโดยสารเป็นสาระสำคัญของสัญญาสัมปทาน หากสั่งห้ามไม่ให้ขึ้นราคา จะถือว่าผิดสัญญา อาจมีผลกระทบต่อสัญญาเงินกู้ที่บีเอ็มซีแอลมีกับธนาคารที่ผูกพันกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ทางธนาคารบอกยกเลิกเงินกู้ได้ อย่างไรก็ตามการตรึงค่าโดยสารให้กับผู้โดยสารที่ใช้บัตรเติมเงินนั้นสามารถกระทำได้ เพราะถือเป็นโปรโมชั่นของทางบริษัทที่ทำให้กับลูกค้าส่วนใหญ่ ไม่ผิดสัญญาสัมปทาน และรฟม.ไม่ต้องจ่ายชดเชยการเสียรายได้ดังกล่าว