นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า การที่สหภาพยุโรป (อียู) ปรับปรุงกฎระเบียบว่าด้วยการติดฉลากสินค้าอาหารและผลิตภัณฑ์อาหารของสหภาพยุโรปใหม่ เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น เป็นการกำหนดให้ผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารและผลิตภัณฑ์อาหารไปยังอียู ต้องติดฉลากแสดงข้อมูลคุณค่าทางโภชนาการบนส่วนหน้าของบรรจุหีบห่อสินค้าแปรรูปเกือบทุกชนิด โดยต้องระบุข้อมูลบนฉลากให้ชัดเจน เช่น ปริมาณไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต น้ำตาลและเกลือแร่ น้ำหนักสุทธิ ปริมาณสารอาหาร และวันหมดอายุด้วย
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวด้วยว่า การที่อียูเป็นตลาดสินค้าหลักของไทย มีมูลค่าส่งออกปีละกว่า 8 หมื่นล้านบาท กรมการค้าต่างประเทศจึงร่วมกับสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดสัมมนาเรื่องกฎระเบียบว่าด้วยฉลากสินค้าอาหารของอียูไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกไทย เตรียมพร้อมผลิตสินค้าอาหารให้ตรงกับข้อกำหนดเงื่อนไขของอียู ซึ่งนอกจากจะเพิ่มศักยภาพการแข่งขันการส่งออกสินค้าอาหารแล้ว ยังเป็นการเตรียมพร้อมรองรับการทำ FTA ระหว่างอาเซียนกับอียูที่จะมีผลบังคับใช้ในอนาคตอีกด้วย
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวด้วยว่า การที่อียูเป็นตลาดสินค้าหลักของไทย มีมูลค่าส่งออกปีละกว่า 8 หมื่นล้านบาท กรมการค้าต่างประเทศจึงร่วมกับสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดสัมมนาเรื่องกฎระเบียบว่าด้วยฉลากสินค้าอาหารของอียูไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกไทย เตรียมพร้อมผลิตสินค้าอาหารให้ตรงกับข้อกำหนดเงื่อนไขของอียู ซึ่งนอกจากจะเพิ่มศักยภาพการแข่งขันการส่งออกสินค้าอาหารแล้ว ยังเป็นการเตรียมพร้อมรองรับการทำ FTA ระหว่างอาเซียนกับอียูที่จะมีผลบังคับใช้ในอนาคตอีกด้วย