สำนักข่าวเอพี รายงานว่า กระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร ได้ออกมายอมรับอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ว่า ได้กระทำการอันเข้าข่าย การละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อนักโทษชาวอิรัก จำนวน 9 คนจริง โดยได้ทำการทรมานด้วยวิธีการทางทหารอันเป็นเหตุทำให้ หนึ่งในนักโทษเสียชีวิต
มีรายงานว่า นักโทษชาวอิรักทั้ง 9 คน ถูกคุมขังที่ค่ายทหารอังกฤษใกล้กับเมืองบาสรา เมืองใหญ่ทางภาคใต้ของอิรัก ตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายน ปี 2003 ในข้อกล่าวหาว่าเป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธที่ก่อเหตุรุนแรง และทั้ง 9 คนได้ถูกสอบสวนและทรมานด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งทำให้นายบาฮา มูซา หนึ่งในนักโทษเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม กระทรงกลาโหมของอังกฤษ ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันจะจ่ายเงินชดเชยให้กับครอบครัวของนักโทษทั้ง 9 คน และจะดำเนินการทางกฎหมายกับทหารอังกฤษทุกนายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้
ทั้งนี้ ศาลสูงของอังกฤษได้ชี้ขาดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า นักโทษทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนเชื้อชาติใด นับถือศาสนาใด หรือ ทำความผิดในข้อหาร้ายแรงเพียงใดก็ตาม หากถูกควบคุมตัวโดยกองกำลังของอังกฤษแล้ว นักโทษเหล่านี้จะถือได้ว่าได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนของสหภาพยุโรปโดยเท่าเทียมกันทุกประการ
มีรายงานว่า นักโทษชาวอิรักทั้ง 9 คน ถูกคุมขังที่ค่ายทหารอังกฤษใกล้กับเมืองบาสรา เมืองใหญ่ทางภาคใต้ของอิรัก ตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายน ปี 2003 ในข้อกล่าวหาว่าเป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธที่ก่อเหตุรุนแรง และทั้ง 9 คนได้ถูกสอบสวนและทรมานด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งทำให้นายบาฮา มูซา หนึ่งในนักโทษเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม กระทรงกลาโหมของอังกฤษ ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันจะจ่ายเงินชดเชยให้กับครอบครัวของนักโทษทั้ง 9 คน และจะดำเนินการทางกฎหมายกับทหารอังกฤษทุกนายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้
ทั้งนี้ ศาลสูงของอังกฤษได้ชี้ขาดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า นักโทษทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนเชื้อชาติใด นับถือศาสนาใด หรือ ทำความผิดในข้อหาร้ายแรงเพียงใดก็ตาม หากถูกควบคุมตัวโดยกองกำลังของอังกฤษแล้ว นักโทษเหล่านี้จะถือได้ว่าได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนของสหภาพยุโรปโดยเท่าเทียมกันทุกประการ
