นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านนโยบายการเงินการคลัง เชื่อจะมีเม็ดเงินลงสู่ระบบ ราว 6-8 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเห็นผลการปรับตัวดีขึ้นของระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป ประกอบกับปัจจัยสนับสนุนด้านการส่งออกของประเทศในปีนี้ มั่นใจว่าจะขยายตัวได้ดี อยู่ที่ร้อยละ 12.5 โดยเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะไม่ฉุดการส่งออกของประเทศไทยมากนัก ทำให้หอการค้าไทยคาดว่า เศรษฐกิจของประเทศในปีนี้จะขยายตัวได้อยู่ในกรอบร้อยละ 4.5-5.5 จากเดิมประเมินไว้ที่ร้อยละ 4.5-5
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยังกล่าวอีกว่า ปัจจัยราคาสินค้าเกษตรที่มีราคาสูงขึ้น จะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจภายในประเทศมากขึ้นจากอำนาจซื้อของเกษตรกร
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยังกล่าวอีกว่า ปัจจัยราคาสินค้าเกษตรที่มีราคาสูงขึ้น จะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจภายในประเทศมากขึ้นจากอำนาจซื้อของเกษตรกร