xs
xsm
sm
md
lg

ทอท.ย้ำไม่จำเป็นต้องเร่งกู้เงินเจบิกขยายสุวรรณภูมิเฟส 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ท.ชนะ อยู่สถาพร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวถึงแนวคิดที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เสนอให้ ทอท.เตรียมกู้เงินจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิก) เพื่อนำไปใช้ขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะ 2 หรือ เฟส 2 ในเบื้องต้นเห็นว่า ทอท.ยังไม่มีความจำเป็นต้องเร่งกู้เงินมาใช้ในการก่อสร้างขณะนี้ เพราะต้องมีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาออกแบบก่อสร้างก่อน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 1 ปี งบประมาณการว่าจ้างประมาณ 100 ล้านบาท จากนั้นจึงจะมีความชัดเจนว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มก่อสร้างได้เมื่อใด ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี ถึง 1 ปี 6 เดือน จึงจะมีการเจรจาเพื่อขอกู้เงินจากเจบิก
พล.อ.ท.ชนะ กล่าวว่า สาเหตุที่ ทอท.เห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องกู้เงินจากเจบิกมาในขณะนี้ เพราะไม่ต้องการแบกรับภาระดอกเบี้ยของเงินกู้ ระหว่างที่ยังไม่มีความชัดเจนในการก่อสร้างจึงต้องการให้มีความชัดเจนในการก่อสร้างให้มากที่สุดก่อน จึงจะเจรจาขอกู้เงินเพื่อมาใช้ในการก่อสร้าง และมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหา เพราะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก็ใช้เงินกู้จากเจบิกมาใช้ในการก่อสร้าง และที่ผ่านมาเจบิกก็แสดงความจำนงอย่างชัดเจนว่าต้องการให้รัฐบาลไทยกู้เงินมาเพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่มาโดยตลอด
ทั้งนี้ หากคณะกรรมการ ทอท.ต้องการก่อสร้างรันเวย์ที่ 3 เพิ่ม ทอท.ก็มีงบประมาณเพียงพอที่สามารถนำไปใช้ได้ทันทีกว่า 3,600 ล้านบาท ส่วนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่อื่นๆ หากไม่เพียงพอก็ค่อยเจรจาขอกู้จากเจบิกเพิ่มเติม ซึ่งแล้วแต่คณะกรรมการ ทอท.จะพิจารณาว่าจะเริ่มก่อสร้างโครงการใดก่อน ขณะที่เงื่อนไขการกู้เงินและดอกเบี้ยของเจบิกก็เป็นเงื่อนไขที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในส่วนของดอกเบี้ยเงินกู้นั้นพบว่า มีอัตราสูงสุดเพียงร้อยละ 1.4 เท่านั้น
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวอีกว่า หลังจากที่ ทอท.มีคณะกรรมการชุดใหม่ ในวันที่ 14 มีนาคมนี้ ภารกิจเร่งด่วนที่ ทอท.จะเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาเป็นวาระแรก คือ การพิจารณาจ่ายเงินเอกชนที่รับจ้างในโครงการต่างๆ ของ ทอท.ที่ยังค้างชำระในหลายโครงการ โดยในเบื้องต้นจะเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาก่อน 13 สัญญาว่าจ้าง ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ใช้งบประมาณจำนวนมาก เพราะที่ผ่านมาได้รับเรื่องร้องเรียนจากเอกชนผู้รับจ้างมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับงบประมาณที่จะใช้ในการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจด้านการบิน และการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารที่กำลังจะเต็มกำลังการรองรับของท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น เป็นเม็ดเงินกว่า 56,000 ล้านบาท ล่าสุดนายสันติ ได้เร่งรัดให้ ทอท.เร่งศึกษาเพื่อให้มีการก่อสร้างเฟส 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้เร็วที่สุด เพื่อรองรับอุตสาหกรรมการบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น รวมถึงป้องกันการสูญเสียการเป็นศูนย์กลางทางการบิน (ฮับ) ในภูมิภาคนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น