นายอภิวัฒน์ คุณารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 เชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากที่พบว่าคุณภาพอากาศภายในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) สูงถึง 144 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐานที่กำหนดให้ไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนหากปริมาณฝุ่นยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (8 มี.ค.) ปริมาณฝุ่นละอองในพื้นที่อำเภอเมือง ลดลงเล็กน้อย วัดได้ 140 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ ซึ่งก็ยังสูงกว่าค่ามาตรฐานอีกทั้งจากการตรวจสอบด้วยเรดาร์พบว่าภายในระยะนี้แนวโน้มยังจะมีฝุ่นควันปกคลุมอยู่ในพื้นที่อีกระยะหนึ่ง
นายอภิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ปัญหาฝุ่นควันที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในปีนี้ มีลักษณะแตกต่างจากทุกปีที่ผ่านมาที่จะเป็นฝุ่นควันจากการเผาป่าในประเทศเพื่อนบ้าน แค่ในปีนี้พบว่าฝุ่นควันจากจังหวัดทางตอนล่างของเชียงใหม่ เช่น ลำพูน ลำปาง เพชรบูรณ์ ที่ถูกกระแสลมพัดพาฝุ่นควันเข้ามาในพื้นที่
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้หารือพร้อมทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ขอความร่วมมือในการกวดขันดูแลเรื่องการเผาเศษใบไม้ และการตรวจสอบเรื่องของไฟป่า ให้มีความเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 เชียงใหม่ ยังคงติดตามตรวจสอบปริมาณฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์เป็นไปด้วยความรวดเร็วทันท่วงที
ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (8 มี.ค.) ปริมาณฝุ่นละอองในพื้นที่อำเภอเมือง ลดลงเล็กน้อย วัดได้ 140 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ ซึ่งก็ยังสูงกว่าค่ามาตรฐานอีกทั้งจากการตรวจสอบด้วยเรดาร์พบว่าภายในระยะนี้แนวโน้มยังจะมีฝุ่นควันปกคลุมอยู่ในพื้นที่อีกระยะหนึ่ง
นายอภิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ปัญหาฝุ่นควันที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในปีนี้ มีลักษณะแตกต่างจากทุกปีที่ผ่านมาที่จะเป็นฝุ่นควันจากการเผาป่าในประเทศเพื่อนบ้าน แค่ในปีนี้พบว่าฝุ่นควันจากจังหวัดทางตอนล่างของเชียงใหม่ เช่น ลำพูน ลำปาง เพชรบูรณ์ ที่ถูกกระแสลมพัดพาฝุ่นควันเข้ามาในพื้นที่
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้หารือพร้อมทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ขอความร่วมมือในการกวดขันดูแลเรื่องการเผาเศษใบไม้ และการตรวจสอบเรื่องของไฟป่า ให้มีความเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 เชียงใหม่ ยังคงติดตามตรวจสอบปริมาณฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์เป็นไปด้วยความรวดเร็วทันท่วงที