นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงการจัดการศึกษารูปแบบสหกิจ ว่า เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กับกรุงเทพมหานคร ตามนโยบายของนายวิจิตร ศรีสอ้าน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อร่วมกันพัฒนาคุณภาพการศึกษา ให้บริการได้อย่างทั่วถึง ซึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีประชากรอยู่หนาแน่น ทำให้โรงเรียนมีจำนวนที่นั่งเรียนไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 ที่มีเด็กล้นทุกปี
โดยความร่วมมือดังกล่าว กำหนดกรอบการดำเนินงานไว้ว่า กรุงเทพมหานครจะเป็นหน่วยงานหลักจัดการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี คือระดับชั้นป.1- ม.3 ขณะที่ สพฐ.จะเน้นขยายชั้นเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายให้มากขึ้น เชื่อว่าจะทำให้การจัดการศึกษามีระบบมากขึ้น โดยเฉพาะปีนี้ที่มีความชัดเจนเรื่องการรับนักเรียนร่วมกัน โดยกรุงเทพมหานครจะขยายชั้นเรียนระดับ ม.1 เพิ่มอีก 42 ห้องเรียน รวมเป็น 84 ห้องเรียน รับเด็กนักเรียนเพิ่มขึ้น 3,360 คน นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับภาคเอกชน จัดตั้งศูนย์ประสานงานการรับนักเรียน ที่ สพฐ.ด้วย จึงมั่นใจว่า จะบรรเทาปัญหาเด็กไม่มีที่เรียนได้แน่นอน และหากเด็กไม่เลือกที่เรียน เชื่อว่าจัดที่นั่งให้เด็กได้ครบทุกคน
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า สพฐ.กำลังลงนามความร่วมมือกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อขยายผลการจัดการศึกษารูปแบบสหกิจ ในแต่ละพื้นที่ต่อไปด้วย
โดยความร่วมมือดังกล่าว กำหนดกรอบการดำเนินงานไว้ว่า กรุงเทพมหานครจะเป็นหน่วยงานหลักจัดการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี คือระดับชั้นป.1- ม.3 ขณะที่ สพฐ.จะเน้นขยายชั้นเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายให้มากขึ้น เชื่อว่าจะทำให้การจัดการศึกษามีระบบมากขึ้น โดยเฉพาะปีนี้ที่มีความชัดเจนเรื่องการรับนักเรียนร่วมกัน โดยกรุงเทพมหานครจะขยายชั้นเรียนระดับ ม.1 เพิ่มอีก 42 ห้องเรียน รวมเป็น 84 ห้องเรียน รับเด็กนักเรียนเพิ่มขึ้น 3,360 คน นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับภาคเอกชน จัดตั้งศูนย์ประสานงานการรับนักเรียน ที่ สพฐ.ด้วย จึงมั่นใจว่า จะบรรเทาปัญหาเด็กไม่มีที่เรียนได้แน่นอน และหากเด็กไม่เลือกที่เรียน เชื่อว่าจัดที่นั่งให้เด็กได้ครบทุกคน
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า สพฐ.กำลังลงนามความร่วมมือกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อขยายผลการจัดการศึกษารูปแบบสหกิจ ในแต่ละพื้นที่ต่อไปด้วย