ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยการสำรวจ อารมณ์ ความรู้สึกของสาธารณชนต่อการกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 12 ปีขึ้นไป ที่มีภูมิลำเนาใน 27 จังหวัดของประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 3,553 ตัวอย่าง มีระยะเวลาการดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 20-26 กุมภาพันธ์ 2551 พบว่าประชาชนที่ถูกศึกษาส่วนใหญ่หรือกว่าร้อยละ 80 ติดตามข่าวการเมืองเป็นประจำทุกสัปดาห์ เมื่อถามถึงอารมณ์ ความรู้สึกของสาธารณชนต่อสถานการณ์การเมืองและอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พบว่าส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 83.9 ระบุว่าการเมืองเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับประเทศ ขณะที่ร้อยละ 65 กำลังวิตกกังวลต่อเหตุการณ์ทางการเมืองขณะนี้ เมื่อถามถึงว่าเคยพูดคุยกันเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ มากน้อยเพียงไร ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 45.9 ระบุว่าเคยพูดถึงกันมาก และร้อยละ 45.8 ระบุว่าคิดถึงอดีตนายกรัฐมนตรีท่านนี้มาก ในขณะที่ร้อยละ 12.6 คิดถึงปานกลาง และร้อยละ 41.6 คิดถึงน้อย เมื่อจำแนกกลุ่มเด็กเยาวชนกับกลุ่มผู้ใหญ่พบว่า มีเด็กเยาวชน "พูดถึง" "คิดถึง" และ "นิยมชื่นชน" อดีตนายกรัฐมนตรีในสัดส่วนที่มากกว่ากลุ่มผู้ใหญ่
ทั้งนี้ ที่น่าพิจารณาคือ ประเด็นเรื่องของความนิยมชื่นชม พ.ต.ท.ทักษิณ พบว่า ประชาชนเกินกว่าครึ่งยังรู้สึกนิยมชื่นชมมาก เมื่อสอบถามว่า เวลาคิดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ คิดถึงอะไรมากกว่ากันระหว่างความดีกับคดีความที่ถูกกล่าวหาในความผิดต่างๆ พบว่า ประชาชนทั้งสองกลุ่มคือ เด็ก เยาวชน และกลุ่มผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.7 กับ ร้อยละ 66.5 ต่างคิดถึงความดีของอดีตนายกรัฐมนตรีมากกว่าคดีความต่างๆ ที่ถูกกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ประมาณ 1 ใน 5 ของเด็กเยาวชนและประมาณ 1 ใน 4 ของกลุ่มผู้ใหญ่ตอบว่าคิดถึงคดีความที่ถูกกล่าวหาในความผิดต่างๆ ของอดีตนายกรัฐมนตรี ขณะที่ที่เหลือไม่มีความเห็น
ทั้งนี้ ที่น่าพิจารณาคือ ประเด็นเรื่องของความนิยมชื่นชม พ.ต.ท.ทักษิณ พบว่า ประชาชนเกินกว่าครึ่งยังรู้สึกนิยมชื่นชมมาก เมื่อสอบถามว่า เวลาคิดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ คิดถึงอะไรมากกว่ากันระหว่างความดีกับคดีความที่ถูกกล่าวหาในความผิดต่างๆ พบว่า ประชาชนทั้งสองกลุ่มคือ เด็ก เยาวชน และกลุ่มผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.7 กับ ร้อยละ 66.5 ต่างคิดถึงความดีของอดีตนายกรัฐมนตรีมากกว่าคดีความต่างๆ ที่ถูกกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ประมาณ 1 ใน 5 ของเด็กเยาวชนและประมาณ 1 ใน 4 ของกลุ่มผู้ใหญ่ตอบว่าคิดถึงคดีความที่ถูกกล่าวหาในความผิดต่างๆ ของอดีตนายกรัฐมนตรี ขณะที่ที่เหลือไม่มีความเห็น