นางเพ็ญนภา ธนสารศิลป์ กรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทยืนยันจะตรึงราคามาม่าซองละ 6 บาท ไปให้นานที่สุด เนื่องจากมาม่าได้กลายเป็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจที่รัฐบาลให้ความสนใจ โดยจะพยายามลดต้นทุนอื่น เช่น น้ำมันปาล์ม รวมทั้งหีบห่อ คาดว่าภายใน 6 เดือน จะยังไม่ปรับขึ้นราคา
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาแป้งสาลีที่เป็นวัตถุดิบสำคัญได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเดือนมกราคม 2551 ราคาอยู่ที่ 495 บาทต่อกระสอบ เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2550 ซึ่งอยู่ที่ 350 บาทต่อกระสอบ และยังมีแนวโน้มขยับขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับพื้นที่ปลูกข้าวสาลีถูกนำไปปลูกข้าวโพดเพื่อใช้ผลิตไบโอดีเซล บริษัทจึงกังวลว่า วัตถุดิบจะมีไม่เพียงพอ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งซื้อวัตถุดิบในราคาดังกล่าวจนถึงเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนราคาใหม่จะออกมาใน 1-2 เดือน จะทำให้เห็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริงว่าเป็นเท่าไร
สำหรับตลาดรวมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปี 2551 คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 5 จากปี 2550 ที่มีมูลค่า 10,500 ล้านบาท โดยมาม่ามีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 55 โดยจะใช้งบโฆษณาประชาสัมพันธ์ปีนี้ประมาณ 300 ล้านบาท สำหรับประเทศไทย มีปริมาณการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอันดับที่ 8 ของโลก ขณะที่จีน อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น บริโภคมากเป็นอันดับ 1-3 ของโลก ส่วนปัจจัยยบวกทางเศรษฐกิจ หากโครงการประชานิยม กระจายเงินลงสู่ระดับรากหญ้า จะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ แต่ล่าสุด เดือนมกราคมที่ผ่านมา พบว่างบประมาณในโครงการประชานิยมยังไปไม่ถึงระดับรากหญ้า แต่หากรัฐบาลทำโครงการได้ดีจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ถือเป็นความคาดหวังของนักธุรกิจทุกคนที่อยากเห็นกำลังซื้อในระดับล่างเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาแป้งสาลีที่เป็นวัตถุดิบสำคัญได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเดือนมกราคม 2551 ราคาอยู่ที่ 495 บาทต่อกระสอบ เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2550 ซึ่งอยู่ที่ 350 บาทต่อกระสอบ และยังมีแนวโน้มขยับขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับพื้นที่ปลูกข้าวสาลีถูกนำไปปลูกข้าวโพดเพื่อใช้ผลิตไบโอดีเซล บริษัทจึงกังวลว่า วัตถุดิบจะมีไม่เพียงพอ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งซื้อวัตถุดิบในราคาดังกล่าวจนถึงเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนราคาใหม่จะออกมาใน 1-2 เดือน จะทำให้เห็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริงว่าเป็นเท่าไร
สำหรับตลาดรวมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปี 2551 คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 5 จากปี 2550 ที่มีมูลค่า 10,500 ล้านบาท โดยมาม่ามีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 55 โดยจะใช้งบโฆษณาประชาสัมพันธ์ปีนี้ประมาณ 300 ล้านบาท สำหรับประเทศไทย มีปริมาณการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอันดับที่ 8 ของโลก ขณะที่จีน อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น บริโภคมากเป็นอันดับ 1-3 ของโลก ส่วนปัจจัยยบวกทางเศรษฐกิจ หากโครงการประชานิยม กระจายเงินลงสู่ระดับรากหญ้า จะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ แต่ล่าสุด เดือนมกราคมที่ผ่านมา พบว่างบประมาณในโครงการประชานิยมยังไปไม่ถึงระดับรากหญ้า แต่หากรัฐบาลทำโครงการได้ดีจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ถือเป็นความคาดหวังของนักธุรกิจทุกคนที่อยากเห็นกำลังซื้อในระดับล่างเพิ่มขึ้น
