นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า เนื่องในวันมาฆบูชา ซึ่งตรงกับวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คนไทยทุกคนนอกจากจะทำบุญตักบาตร ได้รับบุญอิ่มอกอิ่มใจแล้ว วันนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นในการที่คนไทยจะมีสุขภาพที่ดีได้ด้วยวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้ทุกวัน คือ การนั่งสมาธิ เพราะการนั่งสมาธิเป็นการดูแลสุขภาพอีกวิธีหนึ่ง ทำให้เกิดความสงบทางจิตใจ เป็นการได้พักผ่อนทางจิตใจจากสิ่งตึงเครียดและปัญหาทั้งหลาย เกิดสติปัญญาในการแก้ไขปัญหา การทำสมาธิที่ดีจะช่วยให้คลื่นสมองไม่ยุ่งเหยิง สมองสามารถหลั่งฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน (Endorphine) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข จะช่วยให้ร่างกายสดชื่น มีภูมิต้านทานโรคที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น
นายแพทย์สุพรรณ กล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินชีวิตคนไทยกำลังเข้าไปสู่กระแสวัตถุนิยมอย่างมาก ชีวิตมีแต่ความเร่งรีบ อีกทั้งต้องประสบกับความกดดันต่างๆ ทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และครอบครัว อยู่ในภาวะแห่งความตึงเครียด และวิตกกังวล หากประชาชนคนใดปรับตัวไม่ได้ อาจเกิดปัญหาลูกโซ่ต่างๆ ตามมามากมาย จนอาจป่วยเป็นโรคจิตกลายเป็นคนที่มีความเครียดสูง และเป็นโรคเรื้อรังทางกายตามมาอีก โรคที่มาคู่กับความเครียดที่สุดคือ ไมเกรน โรคความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ ยังทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นจนหัวใจโต กล้ามเนื้อหัวใจหนา ทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว หรือหัวใจวาย จนทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
ทั้งนี้ ผลวิจัยทางการแพทย์พบว่า ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่มีการฝึกการหายใจช้าและลึกวันละประมาณ 15 นาที ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 2 เดือน ค่าความดันโลหิตลดลงมากกว่าผู้ป่วยกลุ่มที่ไม่ได้เข้ารับการฝึกทำสมาธิ กระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนให้คนไทยทุกคนหันมานั่งสมาธิโดยไม่จำเป็นที่จะต้องทำเฉพาะในวันมาฆบูชาเพียงวันเดียว การที่ทำแล้วเกิดผลดีต่อร่างกายของตนเอง ก็ควรทำเป็นประจำทุกวัน เริ่มจากวันละ 5 นาที วันต่อไป 10 นาที และ 15 นาที ไปเรื่อยๆ
นายแพทย์สุพรรณ กล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินชีวิตคนไทยกำลังเข้าไปสู่กระแสวัตถุนิยมอย่างมาก ชีวิตมีแต่ความเร่งรีบ อีกทั้งต้องประสบกับความกดดันต่างๆ ทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และครอบครัว อยู่ในภาวะแห่งความตึงเครียด และวิตกกังวล หากประชาชนคนใดปรับตัวไม่ได้ อาจเกิดปัญหาลูกโซ่ต่างๆ ตามมามากมาย จนอาจป่วยเป็นโรคจิตกลายเป็นคนที่มีความเครียดสูง และเป็นโรคเรื้อรังทางกายตามมาอีก โรคที่มาคู่กับความเครียดที่สุดคือ ไมเกรน โรคความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ ยังทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นจนหัวใจโต กล้ามเนื้อหัวใจหนา ทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว หรือหัวใจวาย จนทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
ทั้งนี้ ผลวิจัยทางการแพทย์พบว่า ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่มีการฝึกการหายใจช้าและลึกวันละประมาณ 15 นาที ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 2 เดือน ค่าความดันโลหิตลดลงมากกว่าผู้ป่วยกลุ่มที่ไม่ได้เข้ารับการฝึกทำสมาธิ กระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนให้คนไทยทุกคนหันมานั่งสมาธิโดยไม่จำเป็นที่จะต้องทำเฉพาะในวันมาฆบูชาเพียงวันเดียว การที่ทำแล้วเกิดผลดีต่อร่างกายของตนเอง ก็ควรทำเป็นประจำทุกวัน เริ่มจากวันละ 5 นาที วันต่อไป 10 นาที และ 15 นาที ไปเรื่อยๆ
