นายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในโอกาสเป็นประธานพิธีประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูปลามีไข่ วางไข่ และสัตว์เลี้ยงตัวในวัยอ่อนฝั่งทะเลอ่าวไทย ณ บริเวณท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลา ตำบลปากน้ำชุมพร อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ว่าขณะนี้เป็นช่วงฤดูที่สัตว์น้ำในฝั่งทะเลอ่าวไทยกำลังมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัววัยอ่อนเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะปลาทู ซึ่งเป็นทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีคุณค่าและมีความสำคัญทางเศรษฐกิจต่อประเทศ จึงกำหนดให้มีการปิดอ่าว เป็นระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์-15 พฤษภาคมของทุกปีในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี โดยได้ประกาศใช้มาตรการปิดอ่าวมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2496 เป็นเวลา 55 ปีแล้ว หากชาวประมงรายใดฝ่าฝืนใช้เครื่องมือต้องห้ามทำการประมงในพื้นที่ที่ได้ประกาศปิดอ่าวฯ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ทั้งนี้ คาดว่าภายหลังจากการประกาศใช้มาตรการปิดอ่าว จะทำให้เรือประมงสามารถจับสัตว์น้ำได้เพิ่มขึ้นถึง 1-2 เท่า ของปริมาณการจับก่อนช่วงมาตรการฯ ซึ่งประมาณการว่าจะได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 48,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่าภายหลังจากการประกาศใช้มาตรการปิดอ่าว จะทำให้เรือประมงสามารถจับสัตว์น้ำได้เพิ่มขึ้นถึง 1-2 เท่า ของปริมาณการจับก่อนช่วงมาตรการฯ ซึ่งประมาณการว่าจะได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 48,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท