กระบี่ - เรือประมงบุกทะเลกระบี่ ทำชาวประมงท้องที่ขาดทุน สมาคมชาวประมงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบหวังกู้วิกฤตประมงกระบี่
นายมานิต ดำกุล นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวประมงในจังหวัดกระบี่กำลังประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก เนื่องจากสัตว์น้ำในทะเลลดน้อยลงประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2550 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2551 โดยเฉพาะเรือประมงพาณิชย์ จากเดิมที่เคยมีรายได้เดือนละประมาณ 1 ล้านบาท ลดลงเหลือประมาณ 4-5 แสนบาท ส่วนเรือหมึกที่เคยได้เดือนละประมาณ 3 แสนบาท ลดลงเหลือประมาณ 1 แสนกว่าบาท ส่งผลทำให้ชาวประมงประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก ผิดกับช่วงที่ผ่านมาถึงแม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็ยังพอคุ้มทุนเนื่องจากสัตว์น้ำในทะเลยังมีมาก
นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่ชาวประมงใช้อยู่ในขณะนี้เป็นน้ำมันตามปั๊มทั่วไป เนื่องจากน้ำมันม่วง และน้ำมันเขียวมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ส่วนน้ำมันไบโอดีเซลที่จังหวัดผลิตก็หยุดดำเนินการชั่วคราว และเจ้าของเรือเองก็ไม่นิยมใช้ เพราะราคาไม่ต่างกับน้ำมันดีเซลมากนัก ส่วนสาเหตุของปัญหาที่สัตว์น้ำในทะเลลดน้อยลงนั้น อาจจะเกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา และที่สำคัญทราบว่ามีเรือประมงต่างถิ่น เช่น เรือล้อมจับปลากะตัก เรืออวนครอบ และเรืออวนดำเข้ามาทำการประมงในกระบี่มากขึ้น
“แต่สมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ กำลังสืบหาสาเหตุที่สัตว์น้ำในทะเลลดน้อยลงนั้นว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร ประกอบกับที่ผ่านมาทราบว่ามีเรือประมงต่างถิ่นจำนวนมาก เข้ามาทำการประมงในพื้นที่มากขึ้น ซึ่งเรือเหล่านี้ มีเครื่องมือในการจับปลาที่ทันสมัยกว่าเรือของชาวประมงกระบี่ จึงอาจจะเป็นสาเหตุทำให้ชาวประมงจับสัตว์น้ำได้น้อยก็อาจจะเป็นได้ ซึ่งจะได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ เพื่อจะได้หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป” นายกสมาคมชาวประมงกล่าว
นายมานิต ดำกุล นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวประมงในจังหวัดกระบี่กำลังประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก เนื่องจากสัตว์น้ำในทะเลลดน้อยลงประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2550 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2551 โดยเฉพาะเรือประมงพาณิชย์ จากเดิมที่เคยมีรายได้เดือนละประมาณ 1 ล้านบาท ลดลงเหลือประมาณ 4-5 แสนบาท ส่วนเรือหมึกที่เคยได้เดือนละประมาณ 3 แสนบาท ลดลงเหลือประมาณ 1 แสนกว่าบาท ส่งผลทำให้ชาวประมงประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก ผิดกับช่วงที่ผ่านมาถึงแม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็ยังพอคุ้มทุนเนื่องจากสัตว์น้ำในทะเลยังมีมาก
นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่ชาวประมงใช้อยู่ในขณะนี้เป็นน้ำมันตามปั๊มทั่วไป เนื่องจากน้ำมันม่วง และน้ำมันเขียวมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ส่วนน้ำมันไบโอดีเซลที่จังหวัดผลิตก็หยุดดำเนินการชั่วคราว และเจ้าของเรือเองก็ไม่นิยมใช้ เพราะราคาไม่ต่างกับน้ำมันดีเซลมากนัก ส่วนสาเหตุของปัญหาที่สัตว์น้ำในทะเลลดน้อยลงนั้น อาจจะเกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา และที่สำคัญทราบว่ามีเรือประมงต่างถิ่น เช่น เรือล้อมจับปลากะตัก เรืออวนครอบ และเรืออวนดำเข้ามาทำการประมงในกระบี่มากขึ้น
“แต่สมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ กำลังสืบหาสาเหตุที่สัตว์น้ำในทะเลลดน้อยลงนั้นว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร ประกอบกับที่ผ่านมาทราบว่ามีเรือประมงต่างถิ่นจำนวนมาก เข้ามาทำการประมงในพื้นที่มากขึ้น ซึ่งเรือเหล่านี้ มีเครื่องมือในการจับปลาที่ทันสมัยกว่าเรือของชาวประมงกระบี่ จึงอาจจะเป็นสาเหตุทำให้ชาวประมงจับสัตว์น้ำได้น้อยก็อาจจะเป็นได้ ซึ่งจะได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ เพื่อจะได้หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป” นายกสมาคมชาวประมงกล่าว