นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง คณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ในฐานะโฆษกคณะกรรมการ ทอท. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ ทอท. นัดสุดท้าย ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติแผนแม่บทของการขยายการก่อสร้างท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ซึ่งเป็นแผนระยะยาว 25 ปี โดยเฟสแรกที่คาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างได้ในปี 2553 ซึ่งจะเป็นการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร รวมถึงการย้ายอาคารผู้โดยสารที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นการเตรียมแผนให้คณะกรรมการ ทอท.ชุดใหม่ดำเนินการต่อ ส่วนการขยายรันเวย์นั้นยังไม่มีแผนการดำเนินการ เพราะยังไม่มีความจำเป็น แต่อาจมีการขยายแท็กซี่เวย์ในอนาคต
สำหรับการออกแบบเพื่อขยายท่าอากาศยานภูเก็ตนั้น ฝ่ายออกแบบของ ทอท.ได้รับผิดชอบในการออกแบบเอง จากที่ผ่านมา ทอท.จะเน้นการว่าจ้างบริษัทเอกชนให้ศึกษาออกแบบให้ ซึ่งสูญรายได้เป็นจำนวนมาก และสิ่งที่คณะกรรมการชุดนี้เน้น คือ การสนับสนุนให้บุคลากรของ ทอท.มีบทบาทในการเข้ามาออกแบบก่อสร้างท่าอากาศยานให้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้กำหนดนโยบายจูงใจให้สายการบินต่างๆ ช่วยแก้ปัญหามลภาวะทางเสียง โดยให้มีการลดค่าลงจอดให้กับสายการบินที่ใช้เครื่องบินรุ่นที่ไม่ก่อมลภาวะทางเสียง และจะเป็นค่าลงจอดในอัตราที่สูงกับสายการบินที่ใช้เครื่องบินรุ่นที่ก่อมลภาวะ และจะมีการนำรายได้บางส่วนที่เก็บได้จัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากมลภาวะของเสียง รวมถึงสนับสนุนให้สายการบินต่างๆ ทำการบินในช่วงเวลากลางวันมากกว่าช่วงเวลากลางคืน ซึ่งทาง ทอท.จะต้องนำนโยบายดังกล่าวไปศึกษาผลกระทบของนโยบายดังกล่าว ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวถือเป็นหลักมาตรฐานที่ท่าอากาศยานอื่น ๆ ที่ได้มาตรฐานทั่วโลกดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมนี เป็นต้น
นอกจากนี้ นายเจิมศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า ตนได้ลาออกจากคณะกรรมการ ทอท.แล้ว และจะมีผลในวันที่ 15 กุมภาพันธ์
สำหรับการออกแบบเพื่อขยายท่าอากาศยานภูเก็ตนั้น ฝ่ายออกแบบของ ทอท.ได้รับผิดชอบในการออกแบบเอง จากที่ผ่านมา ทอท.จะเน้นการว่าจ้างบริษัทเอกชนให้ศึกษาออกแบบให้ ซึ่งสูญรายได้เป็นจำนวนมาก และสิ่งที่คณะกรรมการชุดนี้เน้น คือ การสนับสนุนให้บุคลากรของ ทอท.มีบทบาทในการเข้ามาออกแบบก่อสร้างท่าอากาศยานให้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้กำหนดนโยบายจูงใจให้สายการบินต่างๆ ช่วยแก้ปัญหามลภาวะทางเสียง โดยให้มีการลดค่าลงจอดให้กับสายการบินที่ใช้เครื่องบินรุ่นที่ไม่ก่อมลภาวะทางเสียง และจะเป็นค่าลงจอดในอัตราที่สูงกับสายการบินที่ใช้เครื่องบินรุ่นที่ก่อมลภาวะ และจะมีการนำรายได้บางส่วนที่เก็บได้จัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากมลภาวะของเสียง รวมถึงสนับสนุนให้สายการบินต่างๆ ทำการบินในช่วงเวลากลางวันมากกว่าช่วงเวลากลางคืน ซึ่งทาง ทอท.จะต้องนำนโยบายดังกล่าวไปศึกษาผลกระทบของนโยบายดังกล่าว ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวถือเป็นหลักมาตรฐานที่ท่าอากาศยานอื่น ๆ ที่ได้มาตรฐานทั่วโลกดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมนี เป็นต้น
นอกจากนี้ นายเจิมศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า ตนได้ลาออกจากคณะกรรมการ ทอท.แล้ว และจะมีผลในวันที่ 15 กุมภาพันธ์
