นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาทองคำช่วงเทศกาลตรุษจีนคงจะปรับตัวลดลง เนื่องจากตลาดทองคำย่านเอเชียหยุดทำการซื้อขาย เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน และหลังจากผ่านพ้นเทศกาลตรุษจีนไปแล้วคาดว่าราคาทองคำจะขยับขึ้น โดยประเมินว่าไตรมาส 1 ปีนี้ราคาทองคำจะผันผวนประมาณ 845-945 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ หลังจากทำสถิติสูงสุดอยู่ที่ 936 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
ส่วนที่มีการคาดการณ์ว่าราคาทองคำปีนี้อาจทะลุ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ มองว่าราคาทองไม่น่าถึงระดับดังกล่าว เพราะเมื่อราคาทองคำทำนิวไฮด์บรรดากองทุนที่ซื้อทำกำไรก็จะมีการเทขายเพื่อทำกำไรออกมาก่อน จึงเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ราคาทองคำไม่ถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ แต่ราคาทองคำในประเทศ คาดว่ามีโอกาสใกล้แตะบาทละ 15,000 บาท
ส่วนบรรยากาศซื้อทองคำช่วงเทศกาลตรุษจีน คาดว่าไม่คึกคัก เพราะราคาทองคำรูปพรรณยังสูงถึงบาทละ 14,600 บาท ซึ่งยังถือว่าสูง และผู้บริโภคยังไม่ชินกับราคาทองคำที่แพงระดับนี้ จึงทำให้ปริมาณซื้อทองคำลดลงประมาณร้อยละ 20-30 โดยเฉพาะทองรูปพรรณปริมาณการซื้อลดลงร้อยละ 30-40 ขณะที่ทองแท่งได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะเป็นการซื้อเพื่อการลงทุน เนื่องจากราคาทองขยับขึ้นต่อเนื่อง เฉลี่ยประมาณร้อยละ 8-10 ต่อปี
นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้บริโภคนิยมขายทองคำเพื่อทำกำไร โดยเฉพาะผู้บริโภคที่ซื้อทองคำในช่วงเดือนกันยายน 2550 เพราะราคาขยับขึ้นประมาณร้อยละ 20-30
ส่วนที่มีการคาดการณ์ว่าราคาทองคำปีนี้อาจทะลุ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ มองว่าราคาทองไม่น่าถึงระดับดังกล่าว เพราะเมื่อราคาทองคำทำนิวไฮด์บรรดากองทุนที่ซื้อทำกำไรก็จะมีการเทขายเพื่อทำกำไรออกมาก่อน จึงเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ราคาทองคำไม่ถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ แต่ราคาทองคำในประเทศ คาดว่ามีโอกาสใกล้แตะบาทละ 15,000 บาท
ส่วนบรรยากาศซื้อทองคำช่วงเทศกาลตรุษจีน คาดว่าไม่คึกคัก เพราะราคาทองคำรูปพรรณยังสูงถึงบาทละ 14,600 บาท ซึ่งยังถือว่าสูง และผู้บริโภคยังไม่ชินกับราคาทองคำที่แพงระดับนี้ จึงทำให้ปริมาณซื้อทองคำลดลงประมาณร้อยละ 20-30 โดยเฉพาะทองรูปพรรณปริมาณการซื้อลดลงร้อยละ 30-40 ขณะที่ทองแท่งได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะเป็นการซื้อเพื่อการลงทุน เนื่องจากราคาทองขยับขึ้นต่อเนื่อง เฉลี่ยประมาณร้อยละ 8-10 ต่อปี
นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้บริโภคนิยมขายทองคำเพื่อทำกำไร โดยเฉพาะผู้บริโภคที่ซื้อทองคำในช่วงเดือนกันยายน 2550 เพราะราคาขยับขึ้นประมาณร้อยละ 20-30