กรุงอาบูดาบีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เตรียมเริ่มการก่อสร้างเมืองไร้คาร์บอนแห่งแรกของโลกขึ้นในเดือนหน้า โดยจะเป็นเมืองที่ประชากร 50,000 คนอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมซึ่งปราศจากพาหนะปล่อยควันพิษอย่างรถยนต์
คาเล็ด อาวัด ผู้อำนวยการโครงการจากหน่วยพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทอาบูดาบี ฟิวเจอร์ เอ็นเนอจี (เอดีเอฟอีซี) กล่าวว่า เมืองมาสดาร์จะเป็นเมืองซึ่งปราศจากร่องรอยของธาตุคาร์บอน และเป็นเมืองที่ไม่ทำร้ายโลก
“ในเวลาเดียวกันเมืองมาสดาร์จะนำคุณภาพชีวิตที่ดีมากที่สุดมาให้กับผู้อยู่อาศัย” อาวัดกล่าวระหว่างการประชุมสุดยอดเวิลด์ ฟิวเจอร์ เอ็นเนอจี ซึ่งจัดขึ้นในกรุงอาบูดาบีเมื่อวันจันทร์ (21)
เมืองมาสดาร์ ซึ่งจะเป็นเมืองที่ใช้แต่พลังงานซึ่งมีการนำกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากแสงแดดซึ่งมีอยู่อย่างเหลือเฟือในกรุงอาบูดาบี มีกำหนดก่อสร้างเสร็จสิ้นในปี 2013 โดยผู้คนในเมืองจะสามารถสัญจรไปมาบนพื้นที่ที่กว้างประมาณ 6 ตารางกิโลเมตรด้วยรถไฟแบบเบา และพาหนะในการเดินทางระบบอัตโนมัติที่มีหน้าตาคล้ายลิฟต์ในแนวนอน ซึ่งอาวัด ระบุว่า เพียงแค่บอกสถานที่ที่ต้องการไป พาหนะดังกล่าวก็จะนำผู้โดยสารไปถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ในการประชุมดังกล่าวได้มีการนำแบบจำลองของเมืองมาสดาร์ซึ่งออกแบบโดยฟอสเตอร์ แอนด์ พาร์ตเนอร์ส มาแสดงต่อผู้ร่วมประชุม ซึ่งเป็นแบบจำลองที่แตกต่างจากสภาพเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงใกล้กับกรุงอาบูดาบี เนื่องจากเมืองมาสดาร์จะมีแต่ตึกที่สูงเพียงไม่กี่ชั้นซึ่งทุกตึกจะมีการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ที่หลังคาอีกด้วย
ในเมืองไร้คาร์บอนแห่งแรกของโลก ยังจะมีการใช้ประโยชน์จากลมทะเล รวมถึงจะมีการสร้างกำแพงสูงเพื่อปกป้องเมืองจากอากาศในทะเลทรายที่ร้อนอบอ้าว และเสียงดังจากสนามบินกรุงอาบูดาบีที่อยู่ใกล้กัน นอกจากนี้ในเมืองดังกล่าวยังจะมีการสร้างโรงงานพลังงานแสงอาทิตย์ 100 เมกะวัตต์มูลค่า 350 ล้านดอลลาร์ (11,641 ล้านบาท) ขึ้น และจะเพิ่มขึ้นเป็น 500 เมกะวัตต์ เพื่อลดความต้องการใช้พลังงานในอนาคต
คาเล็ด อาวัด ผู้อำนวยการโครงการจากหน่วยพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทอาบูดาบี ฟิวเจอร์ เอ็นเนอจี (เอดีเอฟอีซี) กล่าวว่า เมืองมาสดาร์จะเป็นเมืองซึ่งปราศจากร่องรอยของธาตุคาร์บอน และเป็นเมืองที่ไม่ทำร้ายโลก
“ในเวลาเดียวกันเมืองมาสดาร์จะนำคุณภาพชีวิตที่ดีมากที่สุดมาให้กับผู้อยู่อาศัย” อาวัดกล่าวระหว่างการประชุมสุดยอดเวิลด์ ฟิวเจอร์ เอ็นเนอจี ซึ่งจัดขึ้นในกรุงอาบูดาบีเมื่อวันจันทร์ (21)
เมืองมาสดาร์ ซึ่งจะเป็นเมืองที่ใช้แต่พลังงานซึ่งมีการนำกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากแสงแดดซึ่งมีอยู่อย่างเหลือเฟือในกรุงอาบูดาบี มีกำหนดก่อสร้างเสร็จสิ้นในปี 2013 โดยผู้คนในเมืองจะสามารถสัญจรไปมาบนพื้นที่ที่กว้างประมาณ 6 ตารางกิโลเมตรด้วยรถไฟแบบเบา และพาหนะในการเดินทางระบบอัตโนมัติที่มีหน้าตาคล้ายลิฟต์ในแนวนอน ซึ่งอาวัด ระบุว่า เพียงแค่บอกสถานที่ที่ต้องการไป พาหนะดังกล่าวก็จะนำผู้โดยสารไปถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ในการประชุมดังกล่าวได้มีการนำแบบจำลองของเมืองมาสดาร์ซึ่งออกแบบโดยฟอสเตอร์ แอนด์ พาร์ตเนอร์ส มาแสดงต่อผู้ร่วมประชุม ซึ่งเป็นแบบจำลองที่แตกต่างจากสภาพเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงใกล้กับกรุงอาบูดาบี เนื่องจากเมืองมาสดาร์จะมีแต่ตึกที่สูงเพียงไม่กี่ชั้นซึ่งทุกตึกจะมีการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ที่หลังคาอีกด้วย
ในเมืองไร้คาร์บอนแห่งแรกของโลก ยังจะมีการใช้ประโยชน์จากลมทะเล รวมถึงจะมีการสร้างกำแพงสูงเพื่อปกป้องเมืองจากอากาศในทะเลทรายที่ร้อนอบอ้าว และเสียงดังจากสนามบินกรุงอาบูดาบีที่อยู่ใกล้กัน นอกจากนี้ในเมืองดังกล่าวยังจะมีการสร้างโรงงานพลังงานแสงอาทิตย์ 100 เมกะวัตต์มูลค่า 350 ล้านดอลลาร์ (11,641 ล้านบาท) ขึ้น และจะเพิ่มขึ้นเป็น 500 เมกะวัตต์ เพื่อลดความต้องการใช้พลังงานในอนาคต